นักวิชาการด้านชีววิทยา ระบุ ปลิงตัวใหญ่ที่ชาวบ้านพบไม่ใช่ปลิงประหลาด ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง แจงว่า ข่าวปลิงกัดคนตายไม่เป็นความจริง
หลังจากมีข่าวลือปลิงขนาดใหญ่กัดอัณฑะ และดูดเลือดชาวบ้าน ต.ย่านซื่อ อ.เมืองอ่างทอง จนเสียชีวิต ขณะไปเก็บบัว เก็บผัก ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ
นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 4 เดือนก่อน มีชาวบ้านคนหนึ่งถูกกัด และต่อมาไม่นานก็มีชาวบ้านอีกคนถูกกัดเช่นเดียวกัน จนทำให้ชาวบ้านเป็นกังวล ยืนยันว่า กระแสข่าวเกี่ยวกับปลิงกัดคนตายไม่เป็นความจริง และผู้เสียชีวิตป่วยเป็นโรคหัวใจมานานแล้ว และแผลที่ถูกปลิงกัดหายเป็นปกติก่อนที่จะเสียชีวิต
ส่วนชาวบ้านอีกคนที่ถูกปลิงกัด เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลได้รักษาแผล ฉีดยาป้องกันติดเชื้อ ซึ่งไม่พบอาการผิดปกติ
ขณะเดียวกัน ได้สั่งสำนักงานประมงจังหวัด หาวิธีจับปลิงในคลองลำท่าแดงตัวเป็นๆ เพื่อส่งให้ทางกรมประมงพิสูจน์ว่า เป็นปลิงชนิดใด และมีพิษถึงขั้นทำให้คนเสียชีวิตหรือไม่
นายบันเทิง โชติพ่วง ประมงจังหวัดอ่างทอง ยอมรับว่า ปลิงที่ชาวบ้านส่งรูปไปให้ดู มีลักษณะแปลก และไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อจับปลิงตัวเป็นๆได้แล้ว จะนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ให้ชัดเจน คาดว่าประมาณ 2-3 วัน จะทราบรายละเอียดที่แน่ชัดว่าเป็นสัตว์ชนิดใด
รองศาสตราจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า ปลิงที่ชาวบ้านพบไม่ใช่ปลิงประหลาด แต่เป็นปลิงควายสายพันธุ์หนึ่ง ไม่มีพิษ แต่เมื่อถูกกัดเลือดจะหยุดยาก น้ำลายของมันจะมีสารที่ไปขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไม่แข็งตัว ดังนั้นเมื่อถูกปลิงกัดดูดเลือด ก็ไม่ควรกระชากออกมาแรงๆ เพราะแผลจะใหญ่ได้ นอกจากนี้อาจติดเชื้อหากรักษาไม่ดี
และการที่ "ปลิงควาย" ตัวโตยาวใหญ่ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ส่วนลักษณะที่บอกว่า มี 3 เขี้ยว ก็เป็นลักษณะเด่นของปลิงควาย คือมี ขากรรไกร 3 อัน