ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ระบุ ต้นเพลิงไฟไหม้ ราชเทวีอพาร์ทเม้นท์ เกิดจากชั้น 6 เร่งรวบรวมหลักฐาน โดยยังไม่แจ้งข้อหาใคร ขณะที่ ครอบครัว "น้องพี" นักเรียนชั้น ม.5 ได้ทำพิธีเชิญวิญญาณกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดจังหวัดลพบุรีแล้ว

ญาติเชิญวิญญาณ "น้องพี" เหยื่ออพาร์ทเม้นท์ไฟไหม้กลับบ้านเกิด

ช่วงเช้าวานนี้ ( 4 เม.ย.) ครอบครัวของ นายพีรณัฐ อินวกูล หรือ น้องพี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ที่เสียชีวิต ภายในห้องพักชั้น 12 จากเหตุเพลิงไหม้ ราชเทวีอพาร์ทเม้นท์ ได้ นิมนต์พระสงฆ์มาเชิญดวงวิญญาณ น้องพี ที่จุดเกิดเหตุ โดยมี นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการเขตราชเทวี นำครอบครัวขึ้นไปที่เกิดเหตุ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

จากนั้น ครอบครัวได้เดินทางไปที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อรับศพ น้องพี โดย ร้อยเอก ก้องกังวาล อินวกูล ทหารกองวิทยาการ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ลพบุรี พ่อของน้องพี บอกว่า ครอบครัวมีลูกชาย 2 คน น้องพี เป็นลูกคนสุดท้อง มีนิสัยน่ารัก เป็นที่รักของทุกคน ขยันเรียน เข้ากับคนง่าย มีความใฝ่ฝันอยากเป็นหมอ เมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว ลูกชายสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาได้ ครอบครัวจึงพามาหาห้องพักที่กรุงเทพ โดยให้อยู่คนเดียว เพื่อให้รู้จักการใช้ชีวิตและมีสมาธิในการเรียน ได้พูดคุยกับลูกครั้งสุดท้าย เมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา ถามไถ่สภาพความเป็นอยู่เหมือนปกติ

ช่วงนี้อยู่ระหว่างปิดเทอม แต่น้องพีอยู่กรุงเทพฯ เพื่อเรียนพิเศษ โดยบอกว่า จะกลับบ้านเกิดที่จังหวัดลพบุรี วันที่ 9 เมษายนนี้ เพื่อไปเทศกาลสงกรานต์แต่ก็มาเกิดเหตุไม่คาดคิดก่อน

จากนี้จะนำศพลูกไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่วัดดงสวอง ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี และ จะฌาปณกิจศพในวันที่ 7 เมษายน นี้

พฐ.กลาง ยันต้นเพลิงเกิดชั้น 6 เร่งรวมหลักฐาน ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาใคร

จากนั้นช่วงบ่าย พลตำรวจตรี ธวัชชัย เมฆประเสนิฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เปิดเผยหลังเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุว่า ต้นเพลิงน่าจะอยู่ที่ชั้น 6 ไม่ใช่ชั้น 5 เนื่องจากพบร่องรอย การไหม้ที่แผงสายไฟ ซึ่งไม่เก่า แต่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งไฟฟ้าลัดวงจร หรือ เกิดจากการกระทำของมนุษย์

ส่วนสิ่งของที่อยู่ในห้องชาร์ป หรือ ห้องเก็บสายไฟ ยืนยันว่า ตรวจสอบเกือบทุกชั้น ที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดควันไฟจำนวนมาก ส่วนประตูห้องชาร์ปล็อค หรือ ไม่ล็อค ต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกครั้ง ขณะนี้ได้นำฮาร์ดดิสก์ กล้องวงจรปิดทั้งอาคารไปตรวจสอบ เพื่อเทียบเคียงพยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ

ทั้งนี้ มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้พักอาศัย และ ผู้บาดเจ็บตามโรงพยาบาล ไปแล้วกว่า 100 ปาก นอกจากนี้ยังได้เรียกพนักงานดับเพลิง ที่ปฏิบัติหน้าที่วันเกิดเหตุ อีก 3 ปาก มาสอบถามรายละเอียด ตั้งแต่เรื่อง การมาถึงจุดเกิดเหตุ ลักษณะกายภาพของพื้นที่ภายใน ลักษณะการลุกไหม้ และ ขั้นตอนการดับเพลิง เพื่อประกอบสำนวนคดี

ขณะที่ พันตำรวจเอกนิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผู้กำกับการ สน.พญาไท บอกว่า ในส่วนของการแจ้งข้อหากับผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น ต้องรอผลสรุป จากกองพิสูจน์หลักฐานโดยละเอียดก่อน ส่วนผู้เสียชีวิต ที่ยังไม่ทราบชื่อ ขณะนี้ ทราบแล้ว คือ นายมานพ สุขสวัสดิ์ อายุ 41 ปี

ผอ.เขตราชเทวี สั่งเจ้าของ ราชเทวี อพาร์ทเม้นท์ ปรับปรุงอาคารทั้งหมด

ด้าน นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการเขตราชเทวี บอกว่า มีผู้เสียหาย จากเหตุไฟไหม้ มาลงทะเบียนผู้ประสบภัย จำนวน 119 คน และ ได้อำนวยความสะดวกเรื่องที่พักอาศัยชั่วคราวให้แล้ว ทั้งหมดนี้ เจ้าของราชเทวีอพาร์ทเม้นท์ รับปากจะดูแลรับผิดชอบให้อย่างเต็มที่

ส่วนการตรวจสอบ พบว่า จุดที่เกิดเพลิงไหม้ คือ ห้องชาร์ป หรือ ห้องเก็บสายไฟฟ้า ก่อนจะลุกลามไปยังห้องชาร์ปชั้นอื่นๆ ที่เกิดเหตุพบข้าวของที่ไม่ใช้ ใส่ไว้ภายในห้องชาร์ปเกือบทุกชั้น ซึ่งตามข้อกำหนด ต้องไม่มีข้าวของวางไว้ ส่วนประตูห้องชาร์ปเป็นไม้ แทนที่จะเป็นประตูกันไฟตามกฎหมาย ในส่วนนี้จะนำไปใช้ เป็นต้นแบบให้อาคารอื่นๆ ปรับปรุง และ จุดบอดของอาคารที่พบคือ รอบอาคารเป็นซอยแคบ ไม่มีแหล่งน้ำ และ น้ำในอาคารก็มีไม่เพียงพอ แม้ว่าจะมีการติดตั้งหัวจ่ายไว้ก็ตาม

สำหรับอาคารนี้ ได้สั่งให้เจ้าของปรับปรุงอาคารใหม่ทั้งหมดให้เป็นไปตามมาตรฐาน และ วันที่ 7 เมษายนนี้ กทม.จะนัดผู้พักอาศัย เข้าไปเก็บทรัพย์สินออกจากห้องให้หมด ผู้ประสบภัยทั้งหมด กทม.จะดูแลประสานความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

สปส. สั่งดูแล 5 ผู้บาดเจ็บ ตามสิทธิ์ผู้ประกันตนอย่างเต็มที่

ส่วน นายแพทย์ สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน บอกว่า ตรวจวสอบเบื้องต้นพบว่า ในจำนวนผู้บาดเจ็บ มีผู้ประกันตนอยู่ 5 คน รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลราชวิถี 4 คน โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า 1 คน มีอาการบาดเจ็บจากการสูดดมควันไฟ แพทย์ให้นอนพักรักษาดูอาการก่อน

และได้สั่งการให้ ผู้อำนวยการ สำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 3 เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบเหตุแล้ว สำหรับการดูแลนั้น แม้ว่าเป็นการประสบอันตราย ที่ไม่ได้เกิดจากการทำงาน และ รักษาในโรงพยาบาลที่ไม่ได้เลือกเอาไว้ แต่ยังได้รับสิทธิ เบิกค่ารักษาพยาบาล ภายใน 72 ชั่วโมง ซึ่ง สปส.จะพิจารณาจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนด

ผู้ว่าฯ กทม. สั่งรื้อถอนส่วนต่อเติมผิดกฎหมายของราชเทวีอพาร์ทเม้นท์

ด้าน พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บอกว่า ซอยที่เกิดเหตุ มีเพียงรถดับเพลิงขนาดเล็กเท่านั้น ที่เข้าไปถึงตัวอาคารได้ มีรถยนต์ของผู้อาศัยจอดอยู่เต็มบริเวณ ทำให้การดับเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก เจ้าหน้าที่ ต้องใช้วิธีลากสายฉีดน้ำ ที่ต่อจากรถดับเพลิงขนาดใหญ่ มายังรถดับเพลิงขนาดเล็กเข้าพื้นที่

จากการตรวจสอบอาคารดังกล่าว พบว่า ขอก่อสร้างเป็นอาคาร 12 ชั้น มีการต่อเติมเพิ่มอีก 2 ชั้น คือ ชั้นที่ 13-14 อย่างผิดกฎหมาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ โดยจะสั่งการให้ สำนักงานเขตราชเทวี รื้อถอนส่วนต่อเติมที่ผิดกฎหมายอย่างรวดเร็วที่สุด

ส.ก. แนะทบทวนระบบบรรเทาสาธารณะภัย กทม.ทั้งระบบ

ขณะเดียวกัน นายอัครวัฒน์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร แสดงความเห็นเรื่องไฟไหม้ครั้งนี้ว่า ระบบป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของ กทม.ไม่มีความพร้อม ทั้งรูปแบบการสั่งการของเจ้าหน้าที่ โดยผู้อำนวยการเขต มีหน้าที่สั่งการ กลับมีเจ้าหน้าที่บุคคลอื่น มาร่วมสั่งการ ทำให้ผู้ปฎิบัติงานเกิดความสับสน ในการปฎิบัติหน้าที่

ส่วนแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ อาทิ หน้ากากออกซิเจน วิธีการปฐมพยาบาล อุปกรณ์ดับเพลิงบางชนิด พบว่ายังไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงยังได้รับรายงานว่าการฝึกซ้อมของเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีการฝึกซ้อมเพียงปีละ 2 ครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ขาดประสบการณ์ในอาคารสูง จึงเสนอแนะให้ทบทวนระบบการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของ กทม.ทั้งระบบ