เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่า พื้นที่สงวนชีวมณฑลห้วยทาก สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง เข้าดับไฟป่า ในพื้นที่ อ.งาว

นายไพโรจน์ อาจิริยะ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่า พื้นที่สงวนชีวมณฑลห้วยทาก สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลาดตระเวน เฝ้าระวังไฟป่า บริเวณบ้านปางหละ หมู่ 4 ตำบลบ้านหวด อำเภองาว พบไฟไหม้ป่า 1 จุด เจ้าหน้าที่ ได้เร่งดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถดับไฟได้สำเร็จ

เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุเนื่องมาจาก ชาวบ้าน หาของป่า ชนิดป่าเบญจพรรณ อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ส่วนสถานการณ์ไฟป่า ในพื้นที่ จังหวัดลำปาง พบว่า เกิดเหตุไฟไหม้ป่า และ มีพื้นที่เสียหายไปแล้ว 1 พัน 300 ไร่

ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศาสตราจารย์นายแพทย์ บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณาจารย์ และ เจ้าหน้าที่แพทย์จากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ร่วมกันจัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องภาวะหมอกควัน ไฟป่า และ การป้องกันตนเอง และ มีการแจกหน้ากากอนามัยให้กับบุคลากรคณะแพทย์ฯ กว่า 6,000 คน เพื่อใช้ป้องกันตนเองจากภาวะหมอกควัน

ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรณกิจ เผยว่า สถานการณ์หมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่ ยังไม่มีแนวโน้มจะคลี่คลาย โดยเฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะแพทยศาสตร์ จึงรวบรวมผู้เชี่ยวชาญในด้านสุขภาพมาร่วมกันชี้แจง ถึงผลกระทบต่อสุขภาพ เนื่องจากฝุ่นละอองขนาดเล็กถือเป็นภัยเงียบอันตราย ส่งผลให้เกิดอาการปอดอักเสบ ในระยะยาวจะเสี่ยงเป็นมะเร็งปอด ที่สำคัญอาจเกิดโรคหัวใจในระยะยาวได้

เบื้องต้น สิ่งที่ทุกคนควรทำ คือ การหลีกเลี่ยงออกไปในที่โล่งแจ้ง แต่หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอกในช่วงสั้นๆ ก็ควรใส่หน้ากากชนิด N95 ที่กันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ และ ทางคณะแพทยศาสตร์ มช. ก็ได้แจกหน้ากาก N95 ให้กับบุคลากรทั้งหมด 6,000 กว่าคน ให้นำไปใช้และเป็นตัวอย่าง เพื่อให้คนหันมาดูแลสุขภาพตนเอง

ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า ผู้ป่วยที่เข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลจากสถิติเมื่อปีที่ผ่านมากับปีนี้ พบว่า จำนวนผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคปอด และ โรคหัวใจเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน

เร่งดับไฟป่าเผาไหม้ป่าสงวนแห่งชาติ จ.ลำปาง