เจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ในอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมลงพื้นที่สำรวจที่ดินพื้นที่หาดเว ริมแม่น้ำมูล บ้านคูสว่าง ตำบลหนองกิน หลังชาวบ้าน ร้องเรียนว่า มีการออกโฉนดทับที่ดินสาธารณะแม่น้ำมูลกว่า 200 ไร่
นายฤทธิสรรค์ เทพพิทักษ์ นายอำเภอวารินชำราบ และประธานคณะกรรมการตรวจสอบ ใบจองใช้ออกโฉนดที่ดินทับที่สาธารณะหาดเว ร่วมกับเจ้าพนักงานที่ดิน จังหวัดอุบลราชธานี เดินสำรวจดูข้อเท็จจริงพื้นที่หาดเว ริมแม่น้ำมูล บ้านคูสว่าง ตำบลหนองกินเพล อำเภอวารินชำราบ
หลังชาวบ้าน ร้องเรียนว่า มีนายทุนออกโฉนดทับที่ดินสาธารณะหาดเว เนื้อที่กว่า 200 ไร่ เมื่อปี 2537 แต่ยังมีการรังวัดออกโฉนดโดยเจ้าพนักงานที่ดินในสมัยนั้น โดยอ้างว่า ที่ดินแปลงดังกล่าว มีเอกสารการครอบครองเป็น ส.ค.1 อย่างถูกต้องมาก่อน
ต่อมา เมื่อเดือนตุลาคม 2553 ชาวบ้านกลุ่มเดิม ได้ร้องเรียนไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อคัดค้านและให้ดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบ หลังดีเอสไอตรวจสอบ ได้มีความเห็นและมีหนังสือแจ้งให้กรมที่ดินเพิกถอนการออกโฉนดบนพื้นที่หาดเว เนื่องจาก พบว่า ส.ค.1 ที่นายทุน นำมาใช้ออกโฉนดบนพื้นที่หาดเว เป็นพื้นที่คนละแปลงกัน
แต่กรมที่ดินกลับมีความเห็นว่า การออกโฉนดฉบับดังกล่าว บนพื้นที่หาดเว ถูกต้องแล้ว จึงเสนอยุติเรื่อง ไม่ยอมเพิกถอนโฉนดที่ได้ออกให้นายทุนไปแล้ว
ทำให้ชาวบ้านรวมตัวกันยื่นหนังสือร้องเรียนกับทางจังหวัด ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง ซึ่งคณะกรรมการพิจารณา ข้อร้องเรียนได้เข้าดูข้อเท็จจริง ก่อนส่งให้กรมที่ดิน รับกลับไปพิจารณาเพิกถอนการออกโฉนดบนพื้นที่หาดเว แห่งนี้อีกครั้ง
นายฤทธิสรรค์ ในฐานะประธานคณะกรรมการ กล่าวว่า การตรวจสอบครั้งนี้ เพื่อดูข้อเท็จจริงการออกใบจองที่ใช้ออกโฉนดทับที่สาธารณะหาดเว หลังจากนี้ คณะกรรมการจะไปพิจารณาเอกสารหลักฐานที่ผู้ขอออกโฉนด ตรงกับข้อเท็จจริงของพื้นที่หรือไม่ หากเป็นการออกโฉนดทับที่ดิน ก็จะสรุปเรื่องส่งให้จังหวัดและกรมที่ดิน ไปดำเนินการแก้ไขตามที่ชาวบ้านร้องเรียน
ด้านชาวบ้าน เล่าว่า มีคนเอาที่สาธารณะไปขายให้แก่นายทุนออกโฉนด โดยชาวบ้านไม่รู้เรื่อง จึงพากันคัดค้าน เพราะต้องการให้ที่หาดเว ที่ถูกนายทุนเอาดินมาถมในปัจจุบัน กลับคืนมาเป็นที่สาธารณะ ให้ชาวชุมชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป