ความคืบหน้ากรณีหวย 30 ล้านบาท หลังจากครูปรีชา ได้ให้สัมภาษณ์สื่อในทำนองว่า "ทนายตั้ม" ทนายฝั่งร้อยตำรวจโทจรูญ ให้บุคคลที่ 3 โทรมาขู่ให้รับผิด ล่าสุด ทนายตั้มได้ออกมาโต้แล้วว่า ไม่ได้ขู่ เป็นเพียงเตือนด้วยความหวังดี

เหลือเวลาอีกเพียง 2 วัน ที่จะรู้แล้วว่า ใครเป็นเจ้าของลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 กันแน่ ระหว่าง ร้อยตำรวจโท จรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ ข้าราชการเกษียณตำรวจ กับ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา

ความคืบหน้าล่าสุด นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความฝ่าย ลุงจรูญ ได้ออกมาโพสต์ ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลังจาก “ครูปรีชา” ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ทางทนายตั้มได้ให้บุคคลที่ 3 โทรศัพท์ติดต่อมาในลักษณะข่มขู่ให้ยอมรับสารภาพเป็นคนผิด

โดย ทนายตั้ม (ทนายความฝ่าย ลุงจรูญ) ระบุว่า “ได้เตือนครูปรีชาผ่านนักข่าวว่า ฝากบอกครู ตอนนี้ยังทัน รับสารภาพ โทษหนักจะได้เป็นเบา หลักฐานพร้อมหมดแล้ว ไม่ได้ข่มขู่ ครูฟังดีๆ คำพูดของตนเต็มไปด้วยความหวังดี"

ด้านครู ปรีชา เมื่อวานนี้ (25 ก.พ.) นักข่าวก็ยังคงเดินทางไปเกาะติดอยู่ที่บ้าน โดยวานนี้ (25 ก.พ.) ครูปรีชา แต่งตัวแบบสบาย ๆ เดินออกมาจากบ้าน ซึ่งตอนแรกบอกว่าจะของดให้สัมภาษณ์ 1 วัน

เนื่องจากต้องเดินทางไปดูสวนปาล์ม และ ไร่ยางพารา ที่อำเภอบ่อพลอย แต่เนื่องจากมี กองทัพนักข่าวมาปักหลักอยู่ที่หน้าบ้าน ครูปรีชา จึงยอมให้สัมภาษณ์ โดยบอกว่าเกรงใจนักข่าว ที่เป็นเหมือนญาติพี่น้องกันแล้ว

ซึ่ง ประเด็นสำคัญที่ครูปรีชา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหนีไม่พ้นประเด็นที่ ทนายตั้ม (ทนายความลุงจรูญ) ออกมาตอบโต้ว่า ไม่เคยข่มขู่ให้รับสารภาพ

ครูปรีชา ยืนยันว่า เป็นการข่มขู่เชิงนิตินัย เวลานี้ไม่ใช่เวลาเตือนกัน และ ขอบคุณทนายตั้มที่เป็นห่วง แต่อยากให้ห่วงตัวเองก่อน เวลานี้อยากให้รอตำรวจแถลงผลการสืบสวน ซึ่งหากผลออกมาเป็นของลุงจรูญ ก็ต้องให้กระบวนการศาลตัดสินต่ออยู่ดี

การแถลงของตำรวจเป็นเพียงการให้น้ำหนักว่าใครน่าจะเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ตัวจริงเท่านั้น ตอนนี้หากใครพูด หรือโพสต์อะไรโจมตี ตนก็จะไม่สนใจ

ครูปรีชา ยังฝากผู้สื่อข่าวไปถาม ลุงจรูญ ด้วยว่า หาคนที่ขายลอตเตอรี่ให้กับตัวเองได้หรือยัง ซื้อที่ไหน ขายที่ไหน คนขายคือใคร เพราะจนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีแม่ค้าคนใดออกมาแสดงตนว่าขายให้กับลุงจรูญเลย

ส่วนกระแสโจมตีตนในโซเชียลนั้น ตนเข้าใจ และเชื่อว่าสักวันบุคคลเหล่านั้นจะเข้าใจเอง โดยตนใช้หลักของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์บอกว่ามนุษย์ให้เดินทางสายกลาง มัชฌิมาปฏิปทาคือไม่ตึงเกินไป
ไม่หย่อนเกินไป แล้วเมื่อมีสติก็จะเกิดปัญญา

สติของเราต้องควบคุมตัวเอง กายกับจิตต้องแยกออกจากกัน กายมีเรื่องของคดีความ จิตเป็นจิตที่เป็นครู ตนต้องเป็นพ่อพิมพ์ของชาติ ดังนั้นจิตกับกายที่ดีงาม จะมารวมกันเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ได้

อย่างไรก็ตาม ครูปรีชา ยังพูดก่อนลานักข่าวไปดูแลสวนปา์ลม และสวนยางพารา โดยบอกว่า "ที่ผมไม่ได้รู้สึกเครียด เพราะของจริง แล้วจะไปกลัวอะไร"

"ทนายตั้ม" โต้ไม่ได้ขู่ "ครูปรีชา" เตือนเพราะหวังดี