ทหาร ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบ ซากจระเข้ ที่พบในทุ่งสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังทราบข่าวว่าตายถูกนำไปฝังหลายวันแล้ว

ทหาร ตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เจ้าหน้าที่ประมงอำเภอ และ ตัวแทน ชาวบ้าน ในอำเภอเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินทางไปที่ ฟาร์ม เลี้ยงจระเข้ แห่งหนึ่ง ที่ ตำบลศาลาลัย อำเภอสามร้อยยอด เพื่อตรวจสอบ กรณีการตายของจระเข้ ที่ชาวบ้านจับได้ในทุ่งสามร้อยยอด เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ ได้นำมาฝากเลี้ยงไว้ที่ฟาร์มแห่งนี้

โดยมี ตัวแทน ของฟาร์ม พร้อมด้วยพนักงานนำไปดูจุดที่ได้นำจระเข้ตัวดังกล่าวฝังไว้ภายในฟาร์ม พร้อมทั้งเปิดเผยว่า จระเข้ตัวดังกล่าว ก่อนที่จะนำมาฝากไว้ภายในฟาร์ม พบว่า สภาพร่างกาย บอบช้ำจากการจับ ซึ่งเมื่อปล่อยลงในบ่ออนุบาล จระเข้ตัวดังกล่าว ลงไปว่ายอยู่ใต้น้ำ ไม่ค่อยจะขึ้นมาอยู่บนบก ซึ่งเจ้าหน้าที่ของฟาร์มได้พยายามให้ความช่วยเหลือ ด้วยการนำขึ้นมาไว้บนบก แต่จระเข้ตัวดังกล่าวยังลงไปอยู่ในน้ำ เชื่อว่า อาจจะเกิดจากอาการอ่อนเพลีย และ ไม่กินอาหาร จนกระทั่งตายลงในที่สุด

ซึ่งอาการบอบช้ำของจระเข้ ที่นำมาอนุบาลนั้น จระเข้ไม่เหมือนสัตว์ชนิดอื่น เช่น ไก่ หรือ สุกร ที่จะมียาปฏิชีวนะต่างๆ ให้ความช่วยเหลือ เนื่องจาก จระเข้ มีผู้เลี้ยงน้อย จึงไม่มีบริษัทที่จะผลิตยาขึ้นมาจำหน่ายเพราะไม่คุ้มทุน จากนั้นได้นำเจ้าหน้าที่ไปที่จุดที่ฝังจระเข้ และให้คนงานช่วยกันขุดนำซากจระเข้ตัวดังกล่าวขึ้นมา ให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบ ซึ่งมีสภาพเริ่มเน่าเหม็น ผิวหนังเริ่มหลุดลอกออก 

ส่วน สาเหตุ ที่ต้องเดินทางมาตรวจสอบในครั้งนี้ เนื่องจาก ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่า จระเข้ ที่ชาวบ้านจับได้ในทุ่งสามร้อยยอด ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลก ที่ในอดีตไม่เคยมี และ ได้นำมาเก็บไว้ที่ฟาร์มแห่งนี้ ได้ตายลง ซึ่งชาวบ้านไม่เชื่อว่า จระเข้ตัวดังกล่าวจะตาย เนื่องจากในขณะที่จับหรือในขณะที่ใส่รถกระบะมา ยังดิ้นอย่างแข็งแรง อีกทั้งหลังจากจระเข้ตัวดังกล่าวตาย ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ไม่มีใครแจ้งให้ทางทหารได้ทราบ จนมีข่าวลือออกมา จึงตรวจสอบ โดยเชิญทางตำรวจและปลัดอำเภอ รวมถึงประมงอำเภอเข้าร่วมพิสูจน์ เพื่อคลายข้อกังขาของทุกฝ่ายว่า ยังมีซากจระเข้ตัวดังกล่าวอยู่หรือไม่ 

ทั้งนี้ หลังจากทำการตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว คนงานของฟาร์มก็ได้นำซากจระเข้ตัวดังกล่าว ลงในหลุมและทำการฝังกลบ ใหม่อีกครั้ง โดยขุดฝังลึกประมาณ 1 เมตร เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นและเชื้อโรค