ผู้เสียหายเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังมีชื่ออยู่ในทะเบียนประวัติอาชญากร เป็นผู้ต้องหาคดีเสพยา จนทำให้เกือบถูกไล่ออกจากงาน ทั้งที่ไม่มีสารเสพติดในร่างกาย

กรณีนายเฉลิมพล อยู่ดี ผู้เสียหาย ขอความช่วยเหลือทีมข่าวช่อง 8 หลังมีชื่ออยู่ในทะเบียนประวัติอาชญากรว่า ตนเองเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด นำหลักฐานที่ออกโดยกรมคุมประพฤติ เข้าพบพลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความเป็นธรรม หลังพบมีชื่ออยู่ในทะเบียนประวัติอาชญากร ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเสพยาเสพติด

นายเฉลิมพล เล่าว่า ในปี 2553 ตนเคยถูกตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี เรียกตรวจปัสสาวะ พบขึ้น 2 ขีดจาง ซึ่งยืนยันว่า ไม่ได้เสพยา แต่ถูกบังคับให้เซ็นเอกสาร โดยไม่ยอมให้อ่าน

ก่อนทราบภายหลังว่า เป็นเอกสารรับสารภาพ ก่อนนำตัวเข้าห้องขัง 2 วัน และไปเรือนจำจังหวัดชลบุรี 5 วัน ก่อนขอประกันตัวออกมา หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติ จังหวัดชลบุรี แจ้งผลตรวจโรงพยาบาลว่า ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด

ต่อมาได้ไปสมัครงาน และมีการตรวจประวัติ จึงทราบว่า ยังไม่ลบประวัติเรื่องเคยถูกจับคดียาเสพติด ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้กระทำผิดแต่อย่างใด เมื่อติดต่อที่สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี เจ้าหน้าที่ก็อ้างว่า เอกสารหาย ทำอะไรให้ไม่ได้ จึงต้องมาร้องเรียนให้ช่วยแก้ประวัติ ไม่อย่างนั้นคงจะต้องตกงาน

ด้านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ตรวจสอบพบว่า ผู้เสียหายเป็นผู้บริสุทธิ์ จากนี้จะประสานกองประวัติอาชญากร ลบชื่อออก พร้อมสั่งตรวจสอบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีว่า บกพร่องหรือไม่ คาดใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน 

ผู้เสียหายตกเป็นผู้ต้องหาคดีเสพยาร้องตำรวจช่วยเหลือ