พรรคการเมือง รุมวิจารณ์ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ส.ส. 90 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ระบุเป็นแผนสืบทอดอำนาจหวังอยู่ยาว ขอสนช.เร่งยับยั้ง เพราะอาจกระทบความน่าเชื่อถือ และเศรษฐกิจ

เริ่มกันที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มีมติเสียงข้างมากให้แก้ไขมาตรา 2 กำหนดให้ร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ 90 วัน ภายหลังจากที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ว่า การยืดเวลาการบังคับใช้กฎหมายออกไป เป็นเรื่องที่ไม่เหนือความคาดหมาย และน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการสืบทอดอำนาจ ที่ดำเนินการมาเป็นขั้นตอน

โดยเฉพาะเมื่อมีความชัดเจนว่าต้องจัดตั้งพรรคใหม่ และดูดนักการเมือง จากพรรคเก่าสร้างพรรคใหม่มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเป็นเพราะพรรคใหม่ยังแต่งตัวไม่เสร็จใช่หรือไม่

จึงขอฝากผู้มีอำนาจช่วยไตร่ตรองให้ดีว่าการสืบทอดอำนาจโดยใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมอาจนำพาประเทศไปสู่ปัญหาใหม่ได้ในที่สุด

ขณะที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นการสมคบคิดเพื่อให้รัฐบาลและองคาพยพในแม่น้ำทั้ง 5 สายอยู่ในอำนาจต่อไปให้นานที่สุด ทำให้นึกถึงนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เคยให้สัมภาษณ์หลังร่างรัฐธรรมนูญที่ยกร่างถูกล้มไปว่า "เขาต้องการอยู่ยาว" และเป็นผลโดยตรงที่จะทำให้การปลดล็อกทางการเมืองของ คสช.ต้องเลื่อนออกไป เพราะในคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ระบุให้ คสช.พิจารณาปลดล็อกเมื่อกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มีผล บังคับใช้

ดังนั้นการพิจารณาขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายที่อ้างเหตุผลต่างๆ ถือเป็นผลดีกับพรรคการเมืองใหม่ที่สุด อยากรู้ว่าถ้าการเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป คสช.จะชี้แจงอย่างไร เพราะเคยประกาศจะเลือกตั้งในเดือน พฤศจิกายน 2561 ทุกอย่างเป็นการสมคบคิดกันใช่หรือไม่

ด้านนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการกระทำผิดในหลายข้อ 1.ผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่ต้องการจัดให้มีการเลือกตั้ง หากมีขยายเวลาย่อมเป็นการทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญกฎหมายสูงสุดของประเทศ

2.ผิดความประสงค์ของประชาชน ที่ไปออกเสียงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 เพราะคาดหวังว่า หากเห็นชอบรัฐธรรมนูญนี้ จะนำไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็ว

3.ผิดในเชิงผลประโยชน์ขัดกันของสนช.เอง เพราะจะทำให้การดำรงตำแหน่งของสนช.ยืดยาวออกไปอีก

4.ผิดต่อคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ข้อ 8 ที่มีเจตนารมณ์ที่ต้องการให้ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้ทันที หลังจากที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษ

ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้สนช.ช่วยกันยับยั้ง ก่อนนำไปสู่ความเสียหาย และยังเป็นการทำลายภาพพจน์ความเชื่อมั่นของประชาชนและนานาชาติที่มีต่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะผิดคำพูดจากที่ได้ประกาศโรดแมปเลือกตั้งไว้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ และที่สำคัญที่สุด จะทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจอย่างแน่นอน

ขณะที่ พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยยันว่า เรื่องนี้เป็นดุลพินิจของกรรมาธิการวิสามัญ แล สนช. ซึ่งรัฐบาลและคสช.ไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาในเรื่องนี้

ดังนั้นหาก กมธ.และ สนช.จะมีการตกลงในเรื่องใดก็คิดว่าคงจะมีเหตุผลในเรื่องนี้ให้สังคมได้เข้าใจ ซึ่งตนไม่กล้าออกความเห็นเอง ส่วนระยะเวลาที่เลื่อนออกไป 90 วันนั้น ไม่ได้เป็นนัยที่จะบ่งบอกว่าจะอยู่ยาวแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่มีการวิจารณ์ว่า การขยายเวลาออกไป เพื่อเอื้อต่อการตั้งพรรคทหารนั้น พลโทสรรเสริญ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "พรรคทหารมีที่ไหน พลเอกประยุทธ์ ก็เคยชี้แจงไปแล้ว"

พรรคการเมือง รุมสับ สนช. ยื้อบังคับใช้กฎหมาย ส.ส.-เลื่อนเลือกตั้ง