กรมควบคุมโรค เผยยอดผู้ป่วยอุจจาระร่วง จากเชื้อไวรัส โรต้า- โนโรไวรัส เพิ่มสูงขึ้น จากสภาพอากาศแปรปรวน แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต แนะป้องกันด้วย "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ"

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศ การเฝ้าระวังโรคอุจจาระร่วงว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงเพิ่มขึ้น และพบว่า มีผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัส โรต้า ในกลุ่มผู้ใหญ่เพิ่มขึ้น โดยสุ่มตรวจหาเชื้อก่อโรค ในผู้ป่วยอุจจาระร่วง จำนวน 32 ราย พบเชื้อไวรัสโรต้า 30 ราย

จากข้อมูล กรมควบคุมโรค ปี 2559-2561 มีรายงาน การระบาดของโรคอุจจาระร่วงที่ทราบเชื้อสาเหตุ เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค จำนวน 13 เหตุการณ์ โดยเกิดจากเชื้อไวรัสโรต้า 3 เหตุการณ์ และโนโรไวรัส 10 เหตุการณ์ มีรายงานผู้ป่วยทั้งสิ้น 1,510 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้ คาดว่า จะพบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงเพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูหนาว ทำให้เชื้อไวรัสเติบโตและทนอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นาน ประกอบกับสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ประชาชนเจ็บป่วยได้ง่าย โรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้า เกิดจากการรับเชื้อที่มากับอาหารและน้ำโดยตรงเข้าทางปาก หรือทางอ้อม หลังการสัมผัสกับเครื่องใช้ หรือ ของเล่นต่างๆ ที่ปนเปื้อนอุจจาระที่มีเชื้อไวรัส

อาการของโรค คือ มีไข้ อาเจียน และ ท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำ ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมาก จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเนื่องจากมีอาการขาดน้ำ สำหรับการติดเชื้อซ้ำ เกิดขึ้นได้ทุกกลุ่มอายุ แต่การติดเชื้อซ้ำ ความรุนแรงจะน้อยลง

พร้อมกันนี้ได้ แนะนำให้ประชาชนใช้มาตรการ "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" คือ 1.รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ด้วยความร้อน และสะอาด 2.ใช้ช้อนกลาง และ 3.หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ทั้ง ก่อนและหลังปรุงอาหาร

หากมีผู้ป่วยอุจจาระร่วงในบ้าน ควรทำความสะอาดห้องน้ำ ด้วยน้ำยาที่มีสารประกอบจำพวกคลอรีน เช่น โซเดียมไฮโปคลอไรด์ / คลอรอกซ์ และ ไฮเตอร์ เป็นต้น และทำความสะอาดของเล่น เครื่องใช้ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือนำไปตากแดด หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สายด่วน 1422

กรมควบคุมโรคเผยยอดผู้ป่วยอุจจาระร่วง พบเชื้อ "โรต้า-โนโรไวรัส" 32 ราย