พบหน้าบันปูนปั้นแบบ "กระเท่เซ" สายสัมพันธ์ของวัฒนธรรมทางงานช่างไทย-เทศ ที่เหลือแห่งเดียวในประเทศไทย ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง
ที่วัดหลวง ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่าง พบหน้าบันปูนปั้นแบบ “กระเท่เซ” สายสัมพันธ์ของวัฒนธรรมทางงานช่างไทย - เทศ ที่เหลือแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งสร้างในยุคต้นรัตนโกสินทร์ สมัยรัชกาลที่ 3 ศิลปะจีนได้เข้ามามีอิทธิพลต่องานช่างจนก่อเกิดรูปแบบที่เรียกว่า “พระราชนิยม” ซึ่งสมเด็จครู (สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์) ทรงเรียกว่า “วัดนอกอย่าง” โดยมีวัดราชโอรส เป็นต้นแบบ
ส่วนหน้าบัน เป็นเครื่องก่อเป็นแผงทับ ไม่มีคูหาหน้าบันหรือไขราหน้าจั่ว โดยหน้าบันลักษณะเช่นนี้มีชื่อเรียกแบบเฉพาะว่า “กระเท่เซ” ในพื้นหน้าบันนิยมปั้นปูนเป็นลวดลายดอกบ๋วย หรือ ดอกพุดตานใบเทศ ประดับกระเบื้องสี เป็นลวดลายเครือเถาหรือประดับตุ๊กตาประกอบเขามอ
ส่วน กรอบหน้าบันไม่ติดช่อฟ้ารวย นาคสะดุ้ง และ หางหงส์ แต่ปั้นรูปเป็นรวยหน้ากระดาน คล้ายปั้นลมหางปลา ซึ่งทั้งหมดนี้ คือ รายละเอียดต่างๆ อันเป็นแบบ “กระบวนจีน” ของพระอุโบสถ ที่เรียกว่า “วัดนอกอย่าง” ซึ่งมีพัฒนาการต่อเนื่องมาจากพระอุโบสถแบบ “ทรงวิลันดา” ดังตัวอย่างภาพลายเส้นของวัดสิงห์ กรุงเทพฯ (ซึ่งเพิ่งถูกทำลายดัดแปลงไปเมื่อเร็วๆ นี้เอง) และ วัดหลวง จังหวัดอ่างทอง อันแสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ทางงานช่างของไทยและเทศ