แม่"น้องเมย์"โพสต์เพซบุ๊กส่วนตัว ยังคาใจหลายประเด็น หลังกองทัพแถลงว่าตายเพราะหัวใจล้มเหลว ไม่มีใครลงโทษ พร้อมระบุ "น่าสังเวชผู้ที่ให้ร้ายคนตาย"

จากกรณี พลอากาศเอก ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร ในฐานะประธาน คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ 1 แถลงผลสอบสวนข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของ"น้องเมย"เมื่อวันที่ 15ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า "น้องเมย" เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลงโทษ

โดยระบุจากภาพกล้องวงจรปิด ในวัน 17 ต.ค.ที่ผ่านมา พบว่า "น้องเมย"เป็นลมล้มลง คล้ายกับมีอาการ "ไฮเปอร์เวนติเลชั่น" คือ อาการเกร็ง ชา หายใจถี่และเร็ว สาเหตุมาจากความเครียด

พร้อมระบุว่า ก่อนหน้านี้วันที่ 10 ต.ค.หลัง "น้องเมย" เรียนพละเสร็จวิ่งพลัดตกบันได 8 ขั้น ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์ ไม่พบการถูกทำร้าย เสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

ล่าาสุด นางสุกัญญา ตัญกาญจน์ แม่ของ" น้องเมย"ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า ติดตามการแถลงของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตลอด น่าสังเวช น่าเวทนายิ่งนัก นั่งดูแถลงข่าวไปขำอยู่ในใจ ไม่ขอบคุณแถมยังไม่พอใจ พี่นักเรียนบังคับบัญชาให้ร้ายคนตาย พร้อมตั้งข้อว่ายังมีข้อสงสัยหลายประการ อาทิ ภาพจากกล้องวงจรปิด มีแต่เวลาในช่วงบ่าย

ภาพชุดพรางเดินถือตะกร้า เวลานั้นนักเรียนควรเรียน ไม่ใช่มาเดินถือตะกร้า ไม่เนียน เพราะวันดังกล่าวอยู่กองแพทย์ มาเดินอะไรที่กองแพทย์ และภาพจากกล้องวงจรปิด มีแต่เวลาในช่วงบ่าย ก่อนหน้านี้ 4 ชั่วโมงหายไปไหน

บันไดที่ตก เห็นแค่มีการประคอง แล้วที่ตกลงมาอยู่ไหน เอาเป็นว่า ประจวบเหมาะกันตลอดหาหลักฐานไม่ได้ อีกเรื่องภาวะหอบทางอารมณ์ เพิ่งจะได้รู้จักโรคนี้ และเพิ่มทราบเป็นโรคระบาด ใครเรียนที่นี่เป็นกันเยอะ ทำให้มีคนเข้ามาให้กำลังใจจำนวนมาก

ต่อมา พลโทณตฐพล บุญงาม เจ้ากรมข่าวทหาร ในฐานะโฆษกกองทัพไทย ระบุว่า ต้องรอดูผู้ปกครองนักเรียนเตรียมทหารภคพงศ์ ว่าจะเดินทางมารับฟังการชี้แจงของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ในวันจันทร์ที่ 18 ธันวาคมหรือไม่เพราะมีการเชิญไปแล้ว 

ด้านนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ระบุว่า เท่าที่ทราบคนที่เป็น โรคไฮเปอร์เวนติเลชั่น ยังไม่พบว่ามีการเสียชีวิต ส่วนใหญ่จะมีอาการหอบ ที่เกิดจากภาวะเครียดเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่ผู้ป่วยเป็นอยู่ ดังนั้นผู้ป่วยจะรู้ทันทีว่าตัวเองเป็นโรคนี้ เนื่องจากว่าเกิดได้บ่อย

อย่างไรก็ตาม กรรมการที่ตั้งขึ้นนั้นขาดการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานอื่นที่ประชาชนเชื่อถืออยู่ ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือกับผลที่สรุปออกมา

และเมื่อนักเรียนมีปัญหาอาการเครียดทางจิตใจที่ส่งผลต่อร่างกาย ทางโรงเรียนเตรียมทหาร ควรแจ้งให้ผู้ปกครองของนักเรียนรับทราบตั้งแต่แรก และความจริเมื่อรู้ว่านักเรียนเกิดอาการดังกล่าว ก็ไม่ควรให้เข้ามาเป็นทหาร

ด้าน พลโทคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยกรณีญาติ"น้องเมย " ยังติดใจต่อผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่า

"น้องเมย"ตายผิดธรรมชาติ จึงต้องส่งผลไปพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่มีการเชิญทั้งญาติ ฝ่ายปกครอง แพทย์ และ ตำรวจไปด้วย ก่อนที่ตำรวจจะสรุปสำนวนส่งศาลเป็นผู้ชี้ขาด ว่าการตายนี้ด้วยสาเหตุอะไร จึงขอให้ทั้งหมดจบด้วยกระบวนการยุติธรรม

ยืนยันว่า ทางกองทัพ ไม่อยากให้มีการสูญเสีย ให้ความสำคัญกับชีวิตข้าราชการ และนักเรียนทหารทุกระดับเหมือนกันหมด วันนี้ถือเป็นเรื่องความรู้สึกของสังคมมากกว่า ส่วนเรื่องระบบธำรงวินัย ยืนยัน ว่าเป็นในแนวทางเดียวกับ โรงเรียนทหารทั่วโลก

“แม่น้องเมย” คาใจผลชันสูตรโพสต์เฟซบุ๊ก "น่าสังเวชผู้ให้ร้ายคนตาย"