เจ้าของช็อคพาสุนัขไปอาบน้ำ ตัดขนที่ร้านใน จ.ฉะเชิงเทรา แต่ถูกเรียกเก็บเงินแพง 2,800 บาท ด้านเจ้าของร้านยันคิดราคาตามจริง

นายสิทธิชัย วิจิตรวงษ์ นำเจ้า "ซิวเวอร์ฟ๊อก ไซบีเลี่ยน” มาให้ทีมข่าวดู หลังก่อนหน้านี้ได้อัดคลิปร้องเรียนผ่านสังคมออนไลน์ ว่าพาสุนัขไปอาบน้ำตัดขน และถูกเรียกเก็บเงินค่าบริการสูงถึง 2,800 บาท โดยระบุว่าเป็นราคาที่แพงที่สุดในประเทศไทย และยังตัดพ้อว่าเหมือนถูกปล้น

นายสิทธิชัย ยังเล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยนำสุนัขพันธุ์เล็กไปตัดขนมาแล้วก็เห็นว่าราคาถูกดีจึงมาใช้บริการอีก ไม่คิดว่าครั้งนี้จะราคาแพงขนาดนี้ โดยที่ทางร้านได้เขียนชี้แจงในบิลเรียกเก็บเงินแยกออกเป็นค่าบริการ คือ ค่าอาบน้ำ 1,500 บาท ค่าสางขน 850 บาท ค่ากันขนใต้อุ้งเท้า 150 บาท ค่าน้ำยากำจัดกลิ่นสาบ 300 บาท แถมยังมีค่าแชมพูและอื่นๆ แยกย่อยมาอีก ทั้งที่ความจริงตั้งใจพาสุนัขมาและบอกว่าให้อาบน้ำเพียงอย่างเดียว

แต่พอสอบถามร้านถึงราคาที่แพง ก็มีพฤติกรรมท้าทายจึงต้องนำมาโพสต์ร้องเรียนในลงสังคมออนไลน์ให้ทุกคนช่วยกันแชร์ประสบการณ์ว่าราคานี้ถูกหรือแพงอย่างไร

ขณะที่นางสาวกนกวรรณ เสียงประเสริฐ อายุ 30 ปี เจ้าของร้าน ได้นำขนของสุนัขไซบีเรียนมาให้ทีมข่าวดู พร้อมกับบอกว่า ขนกองนี้กว่าจะสางออกมาหมดต้องใช้เวลานานมาก รวมทั้งยังต้องทำอย่างปราณีตเพื่อไม่ให้สุนัขบาดเจ็บ พร้อมกับกำจัดกลิ่นให้หมดเพื่อลูกค้าจะได้ประทับใจ และสุนัขตัวนี้ขนค่อนข้างยาว ทำให้ขนพันกัน

ยืนยันว่าคิดราคาตามการทำงาน ที่ทำกว่า 3 ชั่วโมง และคิดตามขนาดของสุนัข คิดตามความเป็นจริง

ที่ผ่านมาเปิดร้านให้บริการมานานถึง 10 ปี แล้ว ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ยืนยันทำด้วยใจ แต่ทั้งนี้อาจจะเกิดจากความเข้าใจผิด ที่ไม่ได้สื่อสารกันกับเจ้าของ

  • เจ้าของพาสุนัขไปอาบน้ำ ถูกเรียกเก็บเงิน  2,800 บาท
  • เจ้าของพาสุนัขไปอาบน้ำ ถูกเรียกเก็บเงิน  2,800 บาท