ผู้ปกครอง ไม่พอใจครูไม่ให้ลูกชาย นักเรียนชั้น ป.5 เดินทางไปทัศนศึกษาต่างจังหวัด หลังไม่ส่งหนังสือยินยอม และ ปล่อยเด็กไว้ที่โรงเรียน เพียงลำพัง ซึ่งต่อมา เด็กเดินกลับบ้านตอนตี 4 ไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านโทรศัพท์ให้พ่อไปรับ

นายปราโมทย์ มูลโชติ ผู้ปกครองนักเรียนชายชั้น ป.5 เดินทางไปร่วมรับฟังคำชี้แจงจาก นายประเมิน ทองพร่อง ผู้อำนวยการโรงเรียน และ ครู 2 คน ที่โรงเรียนบ้านสระใหญ่ ต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ จ.ตราด หลังไม่พอใจ ที่ลูกชายได้ ไม่ได้ไปทัศนศึกษาที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งครูปล่อยให้อยู่โรงเรียนเพียงลำพัง

ปราโมทย์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนขับรถยนต์จากบ้านระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ไปส่งลูกชายที่โรงเรียนเพื่อไปทัศนศึกษา ถึงโรงเรียนประมาณ ตี 3 ครึ่ง เมื่อถึงโรงเรียนได้แจ้งกับครู คนหนึ่ง ทราบว่า ไม่ได้นำหนังสือยินยอมให้ไปทัศนศึกษาติดมาส่งครู จะมีปัญหา หรือไม่ ซึ่งครูแจ้งว่าไม่มีปัญหาอะไร

ตนเองจึงส่งลูกไว้กับครู แล้วขับรถกลับบ้าน กระทั่งเวลาประมาณตี 4 ลูกชายเดินกลับบ้านเกือบ 1 กิโลเมตร ไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน โทรศัพท์ให้ตนไปรับจึงรู้โมโหมาก ที่ครูจึงทำเช่นนี้ ปล่อยให้ลูกชายอยู่โรงเรียนลำพัง เดินกลับบ้านทั้งมืด ๆ ซึ่งหากไม่ให้ไปทำไม ไม่โทร บอกให้ผู้ปกครองไปรับ ซึ่งเห็นว่าหากเกิดอันตรายกับเด็กใครจะรับผิดชอบ

ด้าน ครูที่รับผิดชอบคณะทัศนศึกษา ได้ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาครูได้พยายามทวงหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง อนุญาตให้ไปทัศนศึกษามาตลอดจนถึงวันเดินทาง  เมื่อผู้ปกครองมาส่ง ก็ยังไม่มีหนังสือมาให้กับโรงเรียน จึงไม่อนุญาตให้นักเรียนไปทัศนศึกษาตามระเบียบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง แม้ว่าผู้ปกครองจะแจ้งด้วยวาจา กับครูอีกคนหนึ่งก็ตาม

ครูได้ให้เด็กชายไปหาแม่ครัวของโรงเรียน ซึ่งอยู่บ้านใกล้กันและให้เดินทางกลับพร้อมกัน แต่ทางเด็กนักเรียนไม่ไป และ เดินกลับบ้านเอง ยืนยันว่า ครูไม่ได้ปล่อยปะละเลย เพราะครูต้องดูแลนักเรียนอีกหลายคนที่ต้องเดินทางไปทัศนศึกษาเช่นกัน

หลังทำความเข้าใจ นายปราโมทย์ พอใจกับการชี้แจงระดับหนึ่ง พร้อมเสนอให้ครู นำกรณีของลูกชายเป็นเคสตัวอย่างกับโรงเรียนอื่นๆ ว่า ไม่ควรทำเช่นนี้ หากไม่อนุญาตให้ไปขอให้โทรตามผู้ปกครองมารับ หรือ ควรแจ้งให้ทราบ

แต่ยอมรับว่า รู้สึกยังติดใจที่ไม่มีคำขอโทษจากครู ซึ่งปล่อยให้ลูกชายเดินกลับบ้านลำพัง แต่ขอยอมรับผิดที่ลูกชายไม่เชื่อฟังคำสั่งของครู ที่ให้กลับบ้านพร้อมแม่ครัว ซึ่ง นายประเมิน (ผู้อำนวยการโรงเรียน) รับปากว่า จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาอีก จะกำชับครูให้ดูแลและเข้มงวดมากขึ้น