ชาวบ้าน 2 ตำบล ในอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจน บุรี รวมตัวทวงถามความคืบหน้า กรณีที่ชาวบ้าน ยอมย้ายออกมาจากพื้นที่สร้างเขื่อนมาอยู่ในที่ดินที่ได้รับจัดสรร แต่กลับถูกอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตทับซ้อนกับทางอุทยานฯ
ชาวบ้านในตำบลนาสวน ตำบลด่านแม่แฉลบ พร้อมด้วยผู้นำชุมชุนรวมกว่า 300 คน รวมตัวกัน เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม รวมถึงทวงถามความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับปัญหาที่ดินทำกิน ซึ่งชาวบ้านถูกอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ประกาศเป็นพื้นที่เขตอุทยานทับซ้อน จนเป็นปัญหามาอย่างยาวนานนับสิบปี
โดยมีนายเสรี คงอยู่ นายอำเภอศรีสวัสดิ์ ลงมารับหนังสือด้วยตนเอง พร้อมทั้งพูดคุยกับชาวบ้านที่มารวมตัวกันบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอ พร้อมยืนยันกับชาวบ้านว่า จะติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเต็มที่ เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่มารับหน้าที่นายอำเภอสรีสวัสดิ์ ได้รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด และรู้ดีว่าชาวบ้านเดือดร้อน ถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกพื้นที่อุทยานไปแล้วมากกว่า 400 ราย
สำหรับเขื่อนศรีนครินทร์เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ประกาศเป็นพื้นที่หวงห้ามทางราชการทหาร แต่ต่อมาในปี พ.ศ.2524 กรม อุทยานฯ ออกประกาศให้พื้นที่เขื่อนศรีนครินทร์ เป็นอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งตามข้อเท็จจริง มีการตราพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนที่ดินราชพัสดุ เพื่อจัดสรรให้แก่ประชาชนผู้อพยพจากเขตน้ำท่วมจากการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ พ.ศ.2529 เนื้อที่ประมาณ 81,062 ไร่ ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่ประชาชนอยู่อาศัยทำกินมาตั้งแต่ต้น
ดังนั้น การที่กรมอุทยานฯ ออกมาประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ โดยไม่ได้เพิกถอนที่ดินราชพัสดุดังกล่าวเสียก่อน จึงน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ และหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี จะมากล่าวอ้างสิทธิเหนือที่ดินของประชาชนที่อาศัยและทำกินมานานจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน