ศาลฎีกาสั่งยกคำร้อง"ครูจอมทรัพย์"ขอรื้อคดีขับรถชนคนตาย ชี้คำให้การพยานไม่น่าเชื่อถือ และไม่มีหลักฐานใหม่

 

ศาลนครพนมยกคำร้องรื้อคดี"ครูจอมทรัพย์"ชนคนตาย ชี้ไร้หลักฐานใหม่

วานนี้ (17พ.ย.) ศาลจังหวัดนครพนมออก ขึ้นบัลลังอ่านคำร้องคดี นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครู จ.สกลนคร ยื่นขอรื้อคดีขับรถชนคนตาย ที่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2548 หลังติดคุก 1 ปี 6 เดือน เมื่อพ้นโทษได้ร้องกระทรวงยุติธรรมขอรื้อคดี เพื่อพิจารณาใหม่

ครูจอมทรัพย์ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนขับรถยนต์ที่ชนในที่เกิดเหตุ พร้อมนำหลักฐาน รถกระบะโตโยต้าทะเบียน บค 56 สกลนคร มาเปิดความระบุว่า รถยนต์คันที่ชนคือ รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร ของนายสับ วาปี

ครูจอมทรัพย์ยืนยันว่าเป็นแพะ จากความผิดพลาดในการสอบสวนของตำรวจ พร้อมนำพยานมายืนยันว่า คนขับรถชนคนตายเป็นผู้ชาย ลงมาดูศพผู้ตายก่อนขับรถยนต์หนีไป จำเลขทะเบียน ได้เพียง 56 ไม่สามารถจำยี่ห้อ รวมถึงหมวดอักษร และจังหวัดของป้ายทะเบียนได้

โดยศาลฎีกา ได้พิพากษา ยกคำร้องให้นางจอมทรัพย์เป็นผู้กระทำผิดตามคำตัดสินเดิม เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีหลักฐานใหม่ และครูจอมทรัพย์ ไม่นำตัวนายสับ ขึ้นเบิกความในชั้นศาล อีกทั้งพยานบุคคลอื่นๆ ไม่น่าเชื่อถือ เพราะให้ การวกวนและไม่เหมือนเดิม ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องของครูจอมทรัพย์ ในที่สุด

หลังสิ้นสุดการอ่านคำพิพากษาครูจอมทรัพย์ เดินลงจากศาลด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กล่าวว่า รู้สึกเสียใจ เศร้าใจ เมื่อไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ แต่น้อมรับในคำตัดสินของศาล ถือว่าจบไปแล้ว จากนี้ต้องเข้มแข็ง อยู่ต่อให้ได้ โดยจะเดินเรื่องเข้ารอรับราชการต่อไป ขอบคุณคนไทยทั่วประเทศทุกๆ คนที่ให้กำลังใจ  ก่อนจะเดินขึ้นรถออกจากบริเวณศาล

 

โฆษกศาลแจงคดี"ครูจอมทรัพย์"สิ้นสุด -ไม่มีสิทธิ์รับเงินเยียวยา

ด้าน นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า เมื่อศาลฎีกาตัดสินให้ยกคำร้องแล้ว เท่ากับว่าผลของคดีที่เคยตัดสินไว้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงผลเป็นอย่างอื่น คือ ครูจอมทรัพย์ ได้กระทำความผิด รับโทษไปแล้ว ไม่ต้องรื้อคดีใหม่ ดังนั้นคู่ความจึงไม่อาจดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ ต่อไปได้ ถือเป็นอันสิ้นสุด ผู้ร้องก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะรับเงินค่าทดแทนหรือเงินเยียวยาได้

ขณะที่พลตำรวจสุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม จะขอคัดสำนวนศาล เพื่อให้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมา พิจารณาดำเนินคดีกับ ผู้เกี่ยวข้อง กับ กระบวนการว่าจ้างให้รับผิดแทน ผู้ให้การเท็จ เท่าที่จำได้มีไม่ต่ำกว่า 9 คนขึ้นไป

 

ตร.ยืนยันทำสำนวนคดี "ครูจอมทรัพย์" ไม่มีจับแพะ

ส่วนพันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตำรวจได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาปกติ สำนวนการสอบสวนสมบูรณ์แล้ว ชั้นสอบสวนได้รวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด ทำสำนวนการสอบสวนอย่างรอบคอบ และดำเนินการฟ้องผู้ต้องหาไปตามพยานหลักฐาน ไม่ได้มีการจับแพะหรือกลั่นแกล้งให้ผู้หนึ่งผู้ใดมารับโทษตามที่เป็นประเด็นแต่อย่างใด ไม่สามารถขอรื้อฟื้นคดีอีก

ส่วนการดำเนินคดีในที่ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสื่อมเสียหรือไม่นั้น ต้องให้ฝ่ายกฎหมายและฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาหารือดำเนินการ เนื่องจากที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับความเสื่อมเสีย เกิดความไม่เชื่อมั่นในการสอบสวนในกระบวนการยุติธรรม

 

คุรุสภาฯชี้คดี"ครูจอมทรัพย์"กลับมาเป็นครูได้ เหตุไม่ใช่คดีต้องห้าม

ด้าน นายบูรพาทิศ พลอยสุวรรณ์ รองเลขาธิการคุรุสภา เปิดเผย ครูจอมทรัพย์ ได้ขอต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูต่อคณะอนุกรรมการหลังพ้นโทษ ได้รับการต่อใบอนุญาตไปเมื่อปลายเดือนกันยายน  สามารถกลับเป็นครูได้ เพราะคดีเป็นเรื่องความประมาท ไม่ใช่ลักษณะต้องห้าม โทษไม่ได้ทำเสื่อมเสียแห่งเกียรติศักดิ์วิชาชีพครู

ศาลนครพนมยกคำร้องรื้อคดี"ครูจอมทรัพย์"ชนคนตายชี้พยานอ่อน