ญาติและครอบครัวของหญิงท้อง 8 เดือน ที่เสียชีวิตปริศนา คาโรงพยาบาลที่ชลบุรี รวมตัวกันกว่า 30 คน เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม หลังแพทย์ปฎิเสธไม่ยอมบอกสาเหตุการตาย ทำให้ออกเอกสาร รับรองการเสียชีวิตไม่ได้

ที่ลานจอดรถหน้า โรงพยาบาลเอกชล 2 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี
นาย รัชชัย กิจวาที อายุ 38 ปี สามีของผู้เสียชีวติ พร้อมกับญาติกว่า 30 คน อุ้มภาพของ น.ส.พนิตพร เรืองพรพิชัย อายุ 34 ปี ลงวันที่ มรณะวันที่ 29 ต.ค.60 มาร้องต่อสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรม

นายรัชชัย เผยว่า ตนมีบ้านพักอยู่ ต.เสม็ด เป็นสามี น.ส.พนิตพร ซึ่งท้องได้ 8 เดือน โดยเมื่อวันที่ 29 ต.ค. เวลาประมาณ 01.00 น. ภรรยาได้เกิดปวดท้อง จะคลอด จึงพามาส่งที่ โรงพยาบาลดังกล่าว โดยมี นายแพทย์เฉลิมชัย สืบตระกูล เป็นผู้ทำการรักษา

แต่เวลาผ่านไปเพียงครึ่งชั่วโมง แพทย์ออกมาบอกว่า ภรรยาของตนเสียชีวิตแล้ว โดยอธิบายว่า แพทย์ได้ช่วยกันปั้มหัวใจ แต่ยื้อชีวิตไว้ไม่ได้ ตนจึงสอบถามว่า ตายได้อย่างไร แพทย์ตอบว่า น.ส.พนิตพร มีเลือดออก แพทย์จึงต้องให้ยา (จำชื่อทางการแพทย์ไม่ได้) แต่คนไข้เสียชีวิตแล้ว

สามีระบุว่า ตนแทบจะไม่เชื่อ เพราะก่อนเดินทางมาโรงพยาบาล ในช่วงตั้งครรภ์ ภรรยาก็แข็งแรงดี พูดคุยได้ปกติ แต่จู่ๆ มาเสียชีวิตกระทันหัน ประกอบกับ ทางโรงพยาบาล ก็ไม่สามารถบอกสาเหตุการตายได้ ตนจึงไปแจ้งความ และลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเสม็ด

และทำเรื่องขอศพ ไปผ่าพิสูจน์ที่ โรงพยาบาลตำรวจ และเตรียมตั้ง บำเพ็ญกุศลที่วัดบุญประดิษฐ์ พุทธมณฑลสาย 2 มีกำหนดฌาปนกิจศพวานนี้ เวลา 15.00 น.

แต่ครอบครัวก็จัดงานไม่ได้ ต้องยกเลิกงานศพ เนื่องจากทางวัด ไม่ยอมเผาศพให้ เพราะไม่มีเอกสารรับรองการเสียชีวิต ทำให้ญาติที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดก็ต้องกลับ และยกเลิกการเผา หลายคนรู้สึกคลางแคลงใจ จึงได้นำรูปศพ มาร้องสื่อเพื่อขอให้ทางโรงพยาบาล เอกชล 2 ออกใบรับรองการเสียชีวิตให้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลาต่อมา นายแพทย์ พิชัย สิริพรพาณิชย์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเอกชล 2 ก็ได้เดินทางมาที่ลานจอดรถและพูดคุยกับทางญาติผู้เสียชีวิต โดยแสดงความเสียใจ และรับปากว่า จะสอบถามแพทย์ที่รักษาเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิต รวมถึงรอผลชันสูตรจากโรงพยาบาลตำรวจ โดยทางโรงพยาบาล ขอพูดคุยกับญาติผู้ตายอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม กลุ่มญาติผู้เสียชีวิต ไม่พอใจผลการพูดคุย จึงได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรเสม็ด เพื่อแจ้งความดำเนินคดี ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยสามีระบุว่า จะมีการตั้งทนายขึ้นมาเพื่อ ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด