หลายจังหวัดทั่วทุกภาคของประเทศไทย จัดพิธีรับอัญเชิญ ไฟหลวงพระราชทาน เพื่อใช้ประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

เริ่มกันที่ จังหวัดขอนแก่น ที่ห้องประชุมแก่นเมือง ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีมอบไฟหลวงพระราชทาน แก่นายอำเภอ ทั้ง 25 อำเภอ ในจังหวัดขอนแก่น ยกเว้นอำเภอเมือง ซึ่งจะจัดพิธีวางดอกไม้จันทน์ ณ พระเมรุมาศจำลอง ที่วัดป่าแสงอรุณ อำเภอเมืองขอนแก่น

การรับมอบไฟหลวงวานนี้ นายอำเภอและตัวแทนอำเภอต่างๆ ได้เข้ารับมอบไฟหลวง ซึ่งประดิษฐานเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพย วรางกูร โดยใช้เทียนต่อเชิญไฟจากโคมตะเกียงไฟหลวงซึ่ งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

และนายกรัฐมนตรีได้ส่งมอบให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ณ ตึกสันติไมตรีทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2560 และเดินทางมาถึงจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา

โดยไฟหลวงของทุกอำเภอ จะถูกอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ สถานที่ ที่เหมาะของแต่ละอำเภอ เพื่อเตรียมใช้ในพิธีเผาดอกไม้จันทน์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ณ สถานที่ตั้งซุ้มวางดอกไม้จันทน์ และ พระจิตกาธาน ในแต่ละอำเภอ ให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่เข้าร่วมพิธีได้สะดวก ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 นี้

ส่วนที่ จังหวัดบุรีรัมย์ นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานพิธีอัญเชิญไฟหลวงพระราชทานให้แก่นายอำเภอ 22 อำเภอของจังหวัดบุรีรัมย์ นำไปในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันที่ 26 ตุลาคม 2560 นี้

ซึ่งนายอำเภอทั้ง 22 อำเภอ รับไฟหลวงพระราชทาน เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เพื่อนำไปใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บริเวณซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ ที่แต่ละอำเภอ จัดสถานที่เอาไว้อย่างสมพระเกียรติ

ขณะที่ ซุ้มวางดอกไม้จันทน์ ณ พระเมรุมาศจำลองบริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัด (หลังเดิม) ประชาชนทั่วไป สามารถวางดอกไม้จันทน์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป และในเวลา 17.30 น. จะเป็นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ และ พิธีวางดอกไม้จันทน์ พร้อมกันกับส่วนกลาง

ซึ่งทางจังหวัดขอให้ทุกคน นำบัตรประจำตัวประชาชนติดตัวมาด้วย เพื่อเป็นการบันทึกการ เข้าร่วมพิธีของประชาชน พร้อมจัดเก็บเป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังเชิญชวนประชาชน ทั้งที่ ลงทะเบียนจิตอาสาเฉพาะกิจ และผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียน มาร่วมกันทำความดีและเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ด้วย

ส่วนที่ ภาคเหนือ ที่วัดพระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน นายไพศาล วิมลรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีรับอัญเชิญไฟหลวงพระราชทาน ให้แก่นายอำเภอ ทั้ง 15 อำเภอของจังหวัด เพื่อนำไปประกอบพิธีเผาดอกไม้จันทน์ถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ในแต่ละพื้นที่

โดยสถานที่วางดอกไม้จันทน์ ในระดับอำเภอ ทั้ง 15 อำเภอของจังหวัดน่าน ซึ่งทางราชการ ได้ฝากประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนในพื้นที่ เลือกเดินทางไปยังสถานที่ใกล้บ้าน เพื่อความสะดวกในการเดินทาง และลดปัญหาความแออัด

ส่วนที่ จังหวัดพิจิตร ที่พระอุโบสถวัดท่าหลวง พระอารามหลวง อำเภอเมืองพิจิตร นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประทานในพิธี พิธีส่งมอบไฟหลวงพระราชทานแก่นายอำเภอทั้ง 12 อำเภอ

โดยนายอำเภอทุกอำเภอ รับไฟหลวงพระราชทาน เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร เพื่อใช้ในพิธีถวายดอกไม้จันทน์

ซึ่งประชาชนที่อยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองพิจิตร สามารถเดินทางมาร่วมพิธี ที่พระเมรุมาศจำลอง ณ ศาลากลางจังหวัด พิจิตรหลังเดิม ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

ปิดท้ายกันที่ภาคใต้ ที่จังหวัดตรัง นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ ถวายความเคารพเบื้องหน้า พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร พร้อมทั้ง อัญเชิญไฟหลวงพระราชทาน ให้นายอำเภอทั้ง 9 อำเภอ รับไฟหลวง และนำไปเก็บรักษา ณ สถานที่ที่จัดไว้ อย่างสมพระเกียรติ

ส่วนอำเภอเมืองตรัง มีการอัญเชิญไฟหลวงพระราชทานไปยังพระเมรุมาศจำลอง บริเวณ สนามกีฬาทุ่งแจ้ง อำเภอเมืองตรัง และมีหมายกำหนดการเช่นเดียวกันกับประชาชนชาวไทยทั่วทั้งประเทศ

ทั้งนี้ รวมจำนวนไฟหลวงพระราชทาน เพื่อใช้ประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระเมรุมาศจำลองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล จำนวน 9 แห่ง ส่วนในต่างจังหวัด ครบทุกจังหวัด 76 แห่ง และ ต่างประเทศจำนวน 94 แห่ง

หลายจังหวัดทั่วไทย จัดพิธีรับอัญเชิญไฟหลวงพระราชทาน