พ่อของผู้อำนวยการกองการศึกษาฯ อบต.ชำ ที่หายปริศนา เผย มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนคดีนี้ จึงเกรงว่า จะไม่ได้รับความไม่เป็นธรรม ขณะที่รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ลั่นไม่เกิน 1 สัปดาห์ เห็นความชัดเจนในคดีนี้

พ่อ "สาว อบต.ศรีสะเกษ" แฉพิรุธ มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในคดี

นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน พ่อของ นางสาวจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผู้อำนวยการสาวกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลชำ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ออกมาพูดถึงเรื่องที่ลูกสาวหายตัวปริศนาไปตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ตนดีใจมากที่ พลตำรวจตรีสุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ สามารถเร่งรัดคดีจนกระทั่งทำให้ได้ตัว ร้อยเอก ศุภชัย ภาโส มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ซึ่งตนก็มั่นใจ ว่า ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกสาวที่หายตัวไป จะต้องเปิดเผยออกมาในเร็ววันนี้แน่

แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกเรื่องที่ตนรู้สึกกังวล คือเรื่องที่ตนได้ข่าวมาว่า หลังมีการจับกุมตัว ร้อยเอกศุภชัย ได้มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในคดีนี้ ตนจึงเกรงว่า อาจมีความไม่ชอบมาพากล จนทำให้ทางครอบครัวอาจไม่ได้รับความเป็นธรรมก็เป็นได้

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา  พลตำรวจตรีสุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ก็ออกมายืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด

ทุกอย่างยังคงใช้คณะกรรมการสอบสวนชุดเดิม และขณะนี้กำลังเร่งรัดการทำงาน เพื่อให้คดีนี้สามารถสรุปได้โดยด่วนภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

รอง ผบช.ภ.3" ลั่นไม่เกิน 1 สัปดาห์ชัดเจนคดีอุ้ม "สาว อบต.ศรีสะเกษ"

ขณะที่ พลตำรวจตรีบุญจันทร์ นวลสาย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เดินทางมาประชุมร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ นางสาวจุฑาภรณ์ เพื่อฟังรายงานความคืบหน้า ของคดีดังกล่าว โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนจะออกมาเปิดเผยว่า

คดีนี้มีความคืบหน้ามาก คาดว่าไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะถึงความคืบหน้าของคดีได้อย่างชัดเจน ส่วนขั้นตอนในการทำงานนั้น ตนขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำแล้ว

สำหรับพิกัดที่คาดว่า นางสาวจุฑาภรณ์ หายตัวไปนั้นยังคงเหมือนเดิมคือ ที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังค้นหาอย่างเต็มที่ ซึ่งตนก็มั่นใจในพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนรวบรวมไว้ ว่ามีความแน่นหนามาก

อย่างไรก็ตามการที่ผู้ต้องหาเป็นทหารนั้น ตนไม่รู้สึกหนักใจแต่อย่างใด เพราะทำงานอย่างตรงไปตรงมา อีกทั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ได้กำชับเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าให้ทำงานอย่างละเอียด รอบคอบ ชัดเจน และให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง