สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทลายเครือข่าย"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ชาวจีน พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 44 คน พบพฤติการณ์หลอกเหยื่อว่า พัวพันกับสิ่งผิดกฎหมาย หลอกให้โอนเงินเข้าบัญชี สูญเงินนับร้อยล้านบาท
โทรศัพท์มือถือจำนวนมาก พร้อมบัตรเอทีเอ็ม บัญชีธนาคาร และเครื่องส่งสัญญาณโทรศัพท์ไร้สาย รวมถึงซิมการ์ดจำนวนมาก เป็นของกลาง ที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับฝ่ายกิจการตำรวจ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ยึดไว้ได้หลังสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนจำนวน 44 คน ที่มีพฤติกรรมตั้ง "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ใช้โทรศัพท์ผ่านระบบ VoIP (วีโอไอพี Voice Over Internet Protocol ) โทรฯ หลอกเหยื่อข้ามประเทศ
อ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคาร แจ้งว่าเหยื่อกำลังถูกอายัดบัญชี เพราะเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันกับยาเสพติด และอาชญากรรมร้ายแรง ให้เหยื่อติดต่อกลับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ ป.ป.ง. ซึ่งก็เป็นสมาชิกร่วมแก๊ง ซึ่งเหยื่อที่ถูกหลอกส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ข้าราชการบำนาญ ที่อยู่บ้านเพียงลำพัง ไม่มีโอกาสปรึกษาใคร และมีเงินฝากในธนาคารจำนวนมาก ข้อมูลการสืบสวนพบว่า แก๊งนี้หลอกเงินเหยื่อไปแล้วทั้งหมดกว่าร้อยล้านบาท
จากการเข้าตรวจค้นภายในบ้านเช่า ที่แก๊งนี้ เปิดไว้เป็นที่ทำงาน พบว่านำกล่องกระดาษติดที่ป้องกันเสียงรบกวน จัดวางโต๊ะลักษณะเดียวกับบริษัทคอลเซนเตอร์ทั่วไป แต่ละโต๊ะจะมีสคริปต์บทพูด เพื่อหลอกลวงเหยื่อ เมื่อได้เงินจำนวนหนึ่งแล้วก็จะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในต่างประเทศ และเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ เพื่อหลบหนีการตรวจสอบ
หลังสอบปากคำ ชุดสืบสวนเตรียมดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ก่อนจะส่งข้อมูลประสานไปยังประเทศต่างๆ เพื่อขยายผล ติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด ซึ่งทราบว่า ขบวนการดังกล่าวเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติขนาดใหญ่ มีเครือข่ายเชื่อมโยงกว่า 6 ประเทศ