ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย จัดระเบียบแท็กซี่ให้บริการหน้าด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ขึ้นทะเบียนรับสมุดประจำตัวทุกคน หลังพบลักลอบพาแรงงานต่างด้าว ออกนอกประเทศ

พันตำรวจเอก พัลลภ สุริยกุล ณอยุธยา ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ได้เรียกประชุมผู้ประกอบการและผู้ให้บริการขับรถแท็กซี่โดยสาร บริเวณหน้าด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่1 อำเภอเมืองหนองคายมาชี้แจงทำความเข้าใจและข้อตกลงในการปฏิบัติตนร่วมกันให้ถูกต้องตามระเบียบ หลังพบว่า มีแท็กซี่แอบลักลอบพาบุคคลออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย ซึ่งจังหวัดหนองคายมีแท็กซี่ให้บริการรับส่งประมาณ 200-300 คัน

ก่อนหน้านี้ตรวจคนเข้าเมือง ได้แจกสมุดประจำตัวคนขับแท็กซี่พร้อมรถยนต์ที่ใช้บริการเป็นเอกสารสำคัญประจำแต่ละคนและมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้จะเพิ่มความเข้มข้นขึ้นไปอีกโดยทุกคนมาขึ้นทะเบียนกับ ตม.หนองคาย จะได้รับหนังสือเล่มประจำตัวสีชมพู ใช้ได้ 3 เดือน ซึ่งเริ่มใช้ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 จากนั้นหากคนขับแท็กซี่ได้หนังสือเล่มประจำตัวไปแล้วไม่มีการเคลื่อนไหวของการบริการ ไม่มีตราประทับหรือพบว่ามีการสวมรอยให้บุคคลอื่น จะถูกยกเลิกการอนุญาตพร้อมขึ้นแบล็คลิสต์ไว้

หลังจากครบ 3 เดือน ก็จะเปลี่ยนหนังสือเล่มประจำตัวใหม่ให้ เพื่อเป็นการควบคุมคนขับแท็กซี่ให้ทำตามขั้นตอนเป็นระเบียบและไม่ทำผิดกฎหมาย ที่สำคัญผู้โดยสารทุกคนจะต้องลงจากรถมายื่นเอกสารการเดินทางเข้าออกประเทศด้วยตนเองทุกครั้ง ห้ามให้คนขับแท็กซี่มายื่นเอกสารแทนเด็ดขาด หากพบมีการลักลอบพาคนต่างด้าวออกนอกประเทศจะมีโทษปรับ 8,000 บาท ต่อ คน และถูกห้ามไม่ให้มาขับแท็กซี่หน้าด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อีกต่อไป