ชายวัย 51 ปี เข้ามอบตัวกับตำรวจภูธรภาค 7 ให้การรับสารภาพเป็นคนลงมือฆาตกรรมชาย 17 ปี ด้วยการใช้ปืนยิงแสกหน้า จับศพมัดมือ มัดเท้าทิ้งในป่าจ.นครปฐม เนื่องจากไม่พอใจที่มาคบหาลูกสาว ทั้งยังเป็นญาติห่างๆกัน

นายวิธี วงศ์พาณิชย์ อายุ 51 ปี เดินทางเข้ามอบกับตำรวจภูธรภาค 7 ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่า เยาวชนอายุ 17 ปี ด้วยการยิงและใช้ของแข็งตี พร้อมใช้ลวดมัดตามร่างกาย ทิ้งศพที่ป่ากก ริมถนนสายธรรมศาลา - ห้วยตะโก หมู่ 2 ตำบลธรรมศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

ขณะเดียวกันศาลจังหวัดนครปฐม ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคนดังกล่าว ในข้อหาฆ่าคนตาย และปิดบังซ่อนเร้นศพ

พลตำรวจตรีอิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ระบุว่า นายวิธี ผู้ต้องหา ได้ติดต่อเข้ามอบตัว เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก และจากการสอบปากคำนายวิธี เบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง และก่อเหตุเพียงคนเดียว

เนื่องจากทราบมาว่า ลูกสาวของตนเอง ได้คบหาอยู่กับชาย 17 ปี ผู้เสียชีวิต ซึ่งมีพฤติกรรมที่ไม่ดี และลูกสาวกำลังอยู่ในวัยเรียน จึงกลัวว่า จะพาไปในทางเสื่อมเสีย รวมทั้งผู้เสียชีวิตกับผู้ต้องหา ยังเป็นญาติห่าง ๆ กันอีกด้วย

กระทั่ง วันที่เกิดเหตุนั้น นายวิธี จับได้ว่า ผู้เสียชีวิตแอบลักลอบปีนเข้ามา อยู่ภายในห้องของลูกสาว จึงเกิดความโมโห ด่าทอ และเกิดการต่อสู้กัน ก่อนจะคว้าอาวุธปืนมายิงจนเสียชีวิต จากนั้นใช้ลวดมัดมือ และเท้า ห่อศพด้วยพรม มัดด้วยเชือกฟางจนแน่น ก่อนอุ้มศพใส่รถกระบะ นำไปทิ้งไว้ในป่ากกริมทาง

ส่วนศพของชายอายุ 17 ปี ญาติได้นำไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่ศาลาสวดพระอภิธรรมศพวัดไทร อำเภอนครชัยศรี บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

นางเบญจะ รักเพลงดี ป้าผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ยังทำใจกับพฤติกรรมของคนร้าย ที่ฆ่าหลานชายอย่างโหดเหี้ยมไม่ได้ ส่วนตัวไม่เชื่อว่า ผู้ต้องหาจะลงมือฆ่า เพียงคนเดียว

เนื่องจากวันเกิดเหตุ พบข้อความลูกสาวผู้ต้องหา ได้ส่งข้อความมาให้หลานชายออกไปพบ จึงเกรงว่า ถูกลวงไปฆ่า รวมทั้งเหตุเกิดในบ้านผู้ต้องหา ทำไมไม่มีคนห้ามปราม ส่วนตัวขอยืนยันว่า จะไม่ให้อภัยกับผู้ก่อเหตุอย่างเด็ดขาด

มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงเย็นวานนี้ (4ก.ค.) ตำรวจได้คุมตัว ผู้ต้องหาส่งให้ตำรวจภูธรสามควายเผือก เจ้าของคดีนำผู้ต้องหา ไปหาของกลางอาวุธปืน และ รถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะ นำศพไปทิ้งอำพรางคดี พร้อมนำผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนนำตัวส่งศาลฝากขังต่อไป