โฆษกกองทัพบก แจงเตรียมดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา กับเจ้าหน้าที่ทหารที่เกี่ยวข้องกับการปลอมเอกสารขายรถ ขส.ทบ.แล้ว ขณะที่รองโฆษกดีเอสไอเผย คดีนี้ยังไม่เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ เพราะต้องรอการพิจารณาตามขั้นตอนก่อน

ดีเอสไอเผยยังไม่ได้รับเรื่อง "ทหารปลอมเอกสารขายรถมือสอง" เป็นคดีพิเศษ

พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ และรองโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยถึงกรณีที่กรมการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทหารบก และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกันแถลงข่าวกวาดล้างขบวนการมิจฉาชีพ ที่แอบอ้างยื่นเอกสารเท็จรถประมูลขายทอดตลาดของ ขส.ทบ.จำนวน 605 คัน จากทั้งหมด 1,136 คัน โดยมีเจ้าหน้าที่ ขส.ทบ.ลงนามยื่นเอกสารเท็จ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่า

ทาง ขส.ทบ.ได้ตรวจสอบพบว่ามีการใช้เอกสารการประมูลขายทอดตลาดเท็จ เพื่อต้องการนำรถของหน่วยงานไปขายทอดตลาดกว่า 600 คัน ซึ่งเบื้องต้นคดีดังกล่าวเป็นคดีการปลอมแปลงเอกสารทางราชทาง เป็นคดีอาญาทั่วไปและยังไม่ถือเป็นคดีพิเศษ แต่ต้องตรวจสอบก่อนว่าจะมีการเชื่อมโยงอย่างไรบ้าง

โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะต้องดำเนินการตรวจสอบรถที่ถูกขายทอดตลาดไปแล้ว ว่าเป็นรถผิดกฎหมายหรือไม่ และกลุ่มที่กระทำผิดมีเจ้าหน้าที่ภายในจำนวน 1 ราย ร่วมกับข้าราชการหน่วยอื่นและบุคคลภายนอกจำนวนหนึ่ง ส่วนดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่นั้นจะต้องมีผู้เสียหาย คือ ขส.ทบ. หรือ ขบ.มายื่นเรื่องร้องทุกข์ก่อน

กองทัพบกแจง พร้อมปลด พ.อ.ปลอมแปลงเอกสารขายรถ

ด้าน พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ก็กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ทางกรมการขนส่งทหารบก หรือ ขส.ทบ. ได้ตรวจสอบพบพิรุธเกี่ยวการยื่นเอกสารการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ทหารของ ขส.ทบ.ที่มีบางคนไปยื่นให้ไว้กับกรมขนส่งทางบก จึงได้มีประสานกรมขนส่งทางบก เพื่อขอตรวจสอบอย่างละเอียด

ก่อนจะพบว่ามีเอกสารส่งบัญชี แจ้งการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ทหาร โดย ขส.ทบ. มีจำนวน 9 ฉบับ เป็นรถรวมทั้งสิ้น 1,136 คัน และเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารเท็จทั้งหมด

ส่วนรายละเอียดที่ระบุไว้ในเอกสาร เช่น หมายเลขเครื่อง หมายเลขตัวถังนั้น ไม่ใช่รถในอัตราของกองทัพบก การลงนามของผู้มีอำนาจตามหน้าที่ในเอกสารก็เป็นการปลอมแปลงขึ้นมาเอง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทาง ขส.ทบ.ได้ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในทางวินัยขั้นร้ายแรงแล้ว โดยการเสนอให้ปลดออกจากราชการ ส่วนการนำเอกสารปลอมดังกล่าวไปเป็นองค์ประกอบเพื่อใช้ยื่นขอจดทะเบียนให้กับรถยนต์คันใดที่อาจมีที่มาไม่ถูกต้องนั้น ทางกรมขนส่งทางบกจะติดตามเพื่อขอเพิกถอนทะเบียนต่อไป

คืบหน้าคดี "ทหารยศพันเอก" ปลอมเอกสารขายรถมือสองเถื่อน