การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ยืนยันไม่เคยเสนอเก็บค่าไฟฟ้าสำรอง ย้ำจุดยืนสนับสนุนพลังงานหมุนเวียน มีค่าไฟฟ้าเหมาะสม เป็นธรรมกับผู้ใช้ไฟฟ้า

นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี โฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ตามที่มีประเด็นข่าว กฟผ. ได้เสนอเรื่องให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จัดเก็บค่าระบบสำรองไฟฟ้า ที่ 100 - 200 บาท/เดือน สำหรับผู้ที่ผลิตไฟฟ้าใช้เอง แต่ยังคงพึ่งพาไฟฟ้าจากระบบไฟฟ้าของประเทศนั้น ขอยืนยันว่า กฟผ. ไม่ได้เสนอการเก็บค่าไฟฟ้าสำรอง ต่อ กกพ. ตามข่าว

ส่วนที่มาของประเด็นดังกล่าว สืบเนื่องมาจากการสัมมนาสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2560 เรื่อง นวัตกรรม กฟผ. 4.0 ซึ่ง กฟผ. ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าของประเทศในการสัมมนาว่า ปัจจุบันพลังงานแสงอาทิตย์ ได้รับความนิยม และมีราคาถูกลง ทำให้ผู้บริโภคทั่วโลก สามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองได้มากขึ้น มีผลให้รูปแบบความต้องการไฟฟ้า ในแต่ละวันเปลี่ยนแปลงไป

โดยในช่วงเย็นหลังพระอาทิตย์ตกดิน ความต้องการไฟฟ้าจะสูงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกประเทศ จึงต้องเตรียมระบบรองรับไว้ เช่น การลงทุนโรงไฟฟ้าสำรอง หรือแบตเตอรี่สำรอง ที่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว เฉพาะช่วงที่ไม่มีแดดหรือในช่วงเย็น เป็นต้น ซึ่งจะมีผลทำให้ราคาค่าไฟฟ้าสูงขึ้น

ทั้งนี้ ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา เดนมาร์ก นิวซีแลนด์ ได้นำวิธีการต่างๆ มาใช้ รวมทั้งการคิดค่าไฟฟ้าสำรองสำหรับผู้ใช้รายใหญ่หรือรายย่อยที่ผลิตไฟฟ้าใช้เอง เพื่อการลงทุนโรงไฟฟ้าสำรองดังกล่าว แม้แต่ประเทศไทยในปัจจุบัน ก็มีการเก็บค่าไฟฟ้าสำรอง สำหรับผู้ที่มีเครื่องปั่นไฟฟ้าใช้เอง แต่ยังต้องการใช้ไฟฟ้าสำรองจากระบบด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม กกพ. กำลังพิจารณาศึกษา "อัตราค่าไฟฟ้าสำรอง" ที่เหมาะสม สำหรับผู้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปว่า ขนาดกำลังผลิตติดตั้งเท่าใด จึงจะเข้าข่ายต้องถูกเรียกเก็บ

กฟผ. ในฐานะรัฐวิสาหกิจที่ดูแลระบบไฟฟ้าของประเทศ ยืนยันสนับสนุนพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ เช่น การพัฒนาพลังงานหมุนเวียนที่มีความเสถียร (ไฮบริด) โดยจัดทำแผนระยะยาว 20 ปี นอกจากนี้ จะมีการเตรียมระบบไฟฟ้า รองรับในการที่ประชาชนจะผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ใช้เอง เช่น การมีแบตเตอรี่สำรอง โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ การสร้างระบบส่งไฟฟ้ารองรับในพื้นที่ต่างๆ

รวมทั้งการพัฒนาระบบสมาร์ตกริด มาช่วยการบริหารจัดการระบบไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อให้ระบบไฟฟ้ายังมีความมั่นคง และมีค่าไฟฟ้า เหมาะสมเป็นธรรมกับผู้ใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ และประชาชนทั่วไป