ปปง.มีมติสั่งอายัดที่ดินของ "บรรณพจน์ ดามาพงษ์" ทั้งหมด 11 ไร่ ในอำเภอคลองหลวง รวมถึงอาคารบุญรักษา ของวัดพระธรรมกายด้วย หลังพบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น

พลตำรวจเอก ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมตามที่ ปปง.ได้รับการประสานงานจากกรมสอบสวคดีพิเศษ ให้ตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร กรณียักยอกเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นจำกัด ไปลงทุนซื้อสิทธิในการซื้อขายที่ดินในอำเภอคลองหลวง และหุ้นของบริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด โดยผิดข้อระเบียบข้อบังคับ และวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ฯ ว่า

จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า เมื่อปี 2552 นายศุภชัย ได้ยักยอกเงินของสหกรณ์ฯ ไปลงทุนซื้อสิทธิในการซื้อขายที่ดินและหุ้นของบริษัทดังกล่าว ด้วยวิธีสั่งจ่ายเช็ค 11 ฉบับ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 321,400,000 บาท และในปี 2554 บริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด ได้แบ่งขายโฉนดที่ดินให้แก่นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ซึ่งนายบรรณพจน์ ก็ได้ทำสัญญาให้นิติบุคคลภายนอกเช่าที่ดินเมื่อปี 2559

ดังนั้น ที่ดินดังกล่าวรวมทั้งสิทธิเรียกร้องตามสัญญาเช่าที่ดิน จึงเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดที่ถูกเปลี่ยนสภาพมาหลายครั้ง ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ที่ประชุมจึงมีมติอายัดที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 165233 เนื้อที่ดิน 11 ไร่ 1 งาน ในอำเภอคลองหลวง และที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 161424 เนื้อที่ดิน 3 งาน 32.5 ตารางวา ในอำเภอคลองหลวง เอาไว้เป็นของกลาง

นอกจากนี้ทาง บริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด ยังได้ทำสัญญาขายที่ดินให้กับนายอนันต์ ซึ่งในเวลาต่อมานายอนันต์ ได้ขายที่ดินให้แก่บุคคลภายนอก ในราคา 492,320,250 บาท จากนั้นได้นำเงินไปชำระหนี้ให้กับ บ.เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด และหนี้อื่นบางส่วน ก่อนนำเงินส่วนใหญ่จำนวน 303,000,000 บาท ไปบริจาคให้มูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง เพื่อนำไปก่อสร้างอาคารบุญรักษา

ซึ่งหมายความว่า อาคารทั้ง 2 แห่ง ถูกปลูกสร้างโดยใช้ทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ที่เปลี่ยนสภาพมาหลายครั้ง ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติอายัด อาคารบุญรักษา พื้นที่จอดรถ ที่กลับรถ และทางเข้าออกของรถเอาไว้ทั้งหมด

ดีเอสไอเตรียมเรียก "เจ้าสัวบุญชัย" สอบคฤหาสน์รุกป่าสงวนใน จ.พังงา

ด้าน พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินและการปลูกสร้างคฤหาสน์ 2 หลัง บนสันเขาในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าควนโต๊ะหลา และป่าแหลมซำ ตำบลคลองเคียน อำเภอะตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ในขั้นตอนเร่งรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมด ก่อนนำเสนอให้ตนพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ เพื่อเริ่มต้นการสอบสวนตามพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ โดยคดีบุกรุกพื้นที่ป่าเป็นคดีแนบท้ายกฎหมายของดีเอสไอ สามารถรับเป็นคดีพิเศษได้ โดยไม่ต้องขอให้คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติรับคดี ซึ่งจะเร่งในเสร็จภายในสัปดาห์นี้ สำหรับการตรวจสอบพื้นที่ป่าควนโต๊ะหลา ซึ่งดีเอสไอสนธิกำลังทหารและกรมป่าไม้เข้าตรวจสอบแล้ว ยังมีพื้นที่ที่มีประชาชนมาร้องเรียนให้ดีเอสไอตรวจสอบเพิ่มเติมอีกหลายแปลง

"สุวพันธุ์" ชี้มีเบาะแส "ธัมมชโย" ที่ไหน ดีเอสไอจะไปค้นที่นั่น

ขณะที่ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านสองหลัง บนสันเขาในเขตป่าสงวนแห่งชาติควนโต๊ะหลา-แหลมซำ เพื่อติดตามตัวพระธัมมชโย ว่า ขณะนี้ทางดีเอสไอกำลังติดตามตัว พระธัมมชโย ตามหมายจับที่มีอยู่ ซึ่งถ้าพบเบาะแสที่ไหน ก็จะดำเนินการเข้าตรวจค้นที่นั่นทันที แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ดีเอสไอเชื่อว่า พระธัมมชโย ไม่ได้อยู่ในวัดพระธรรมกายแล้ว ส่วนจะหลบหนีไปต่างประเทศหรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่าคงไม่ได้เพราะ พระธัมมชโย ไม่มีหนังสือเดินทาง

ส่วนการดำเนินการพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นเจ้าของบ้านและที่ดินบนสันเขา ซึ่งปลูกสร้างอย่างผิดกฎหมายนั้น ขณะนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างดำเนินการตามหน้าที่ โดยกำลังหาข้อมูลหลักฐาน เรื่องที่ดิน ซึ่งดีเอสไอคงรายงานให้ตนทราบต่อไป