ผู้เสียหายถูกหลอกร่วมวงแชร์ลูกโซ่ทำบุญไถ่ถอนพระพุทธรูปโบราณจากอินเดีย มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้าน ร้องติดตามความคืบหน้า หลังพบว่ามูลนิธิฯ ยังเปิดดำเนินการตามปกติ

นายจำรัส ณ บางช้าง อายุ 52 ปี นักธุรกิจในจังหวัดลำพูน พร้อมผู้เสียหายกว่า 10 คน เดินทางเข้าร้องเรียนและติดตามความคืบหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ หลังถูกหลอกลวงร่วมวงแชร์ลูกโซ่

นายจำรัส เปิดเผยว่า หลายปีก่อนได้เข้าร่วมทำบุญและปฏิบัติธรรมในสถานปฏิบัติธรรมของมูลนิธิอโศกมุณีแสงธรรม ตั้งอยู่ที่ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดยถูกเชิญชวนให้ร่วมกันทำบุญไถ่ถอนพระพุทธรูปโบราณที่ทำมาจากพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ที่ยังเหลืออยู่ในประเทศอินเดียอีกหลายองค์ เพื่อนำมาประดิษฐานที่ประเทศไทย

มีลูกศิษย์และชาวบ้านหลายคนหลงเชื่อร่วมกันทำบุญบริจาคเงินตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักล้านบาท โดยผู้เสียหายที่บริจาคมากที่สุด คือ 4 ล้านบาท เจ้าสำนักแห่งนี้อ้างตัวว่ามีญาณวิเศษ และอ้างว่าสามารถอบรมจนหลักสูตรเร่งรัดจากคนธรรมดาให้เป็นอริยบุคคล มีผู้เสียหายหลงเชื่อจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

ต่อมาปลายปี 2558 ลูกศิษย์อีกหลายคนตรวจสอบ พบว่า พระพุทธรูปโบราณ ที่อ้างว่ามีการไถ่ถอนจากประเทศอินเดีย มีโครงสร้างเป็นเหล็กข้ออ้อยที่ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างในปัจจุบัน ทำให้รู้ความจริงว่าถูกหลอก

หลังจากนั้นจึงเข้าแจ้งความไว้หลายที่ แต่จนถึงขณะนี้คดีไม่คืบหน้า จึงเดินทางมาติดตามความคืบหน้า เพราะเกรงว่าเจ้าสำนักจะหลบหนี และปัจจุบันมูลนิธิแห่งนี้ยังคงเปิดดำเนินการ กลัวว่าจะมีประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเพิ่มเติมอีก

ร้องถูกหลอกเล่นแชร์อรหันต์ติดเทอร์โบไถ่ถอนพระพุทธรูปโบราณ