ชายเก็บฟืน วัย 66 ปี ถูกจับคดีบุกรุกป่าสงวน ก่อนจะตัดสินใจ ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอเสียชีวิต ภายในห้องขัง สภ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู ขณะเดียวกัน ญาติ ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
ที่บ้านหนองสิม ตำบลนาแก อำเภอนาวัง จังหวัดหนองบัวลำภู ญาติของผู้ต้องขัง วัย 66 ปี นำศพมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนา หลังจากชายคนดังกล่าวถูกจับกุมตัว ในคดีบุกรุกป่าสงวน และ ถูกคุมตัวในห้องขังสถานีตำรวจภูธรนาวัง จ.หนองบัว ลำภู ก่อนจะตัดสินใจ ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตัวเองเสียชีวิต
ภรรยาของผู้ตาย ระบุว่า ผู้ตายมีอาชีพหาเก็บกิ่งไม้ เศษไม้ รวบรวมมาเผาถ่านขาย ใส่กระสอบปุ๋ยในราคาถุงละ 100 บาท พอได้เงินมาซื้อข้าวปลาอาหารเลี้ยงครอบครัว สามีตนเอง ถูกตำรวจจับ กุมตัวไปสอบสวน แต่ตนเองคิดว่าคงไม่มีอะไร สักพักก็คงปล่อยตัว เพราะผู้ตายมีโรคประจำตัว ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็จะว่ากล่าวตักเตือนและปล่อยตัวกลับมาบ้านทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้ตำรวจมาบอก ว่าสามีเสียชีวิตแล้ว ให้ไปรับศพที่สถานีตำรวจภูธรนาวัง และ เมื่อไปถึงลูกชายได้ขอเจ้าหน้าที่ดูกล้องวงจรปิด แต่ถูกปฏิเสธ บอกว่า กล้องวงจรปิดไม่มี ซึ่งครอบครัวติดใจการเสียชีวิต เนื่องจาก สามีเป็นคนตัวเล็ก ผอม และ ไม่แข็งแรง แต่ทำไมถึงปีนขึ้นไปใช้ผ้าผูกคอบนราวลูกกรงเหล็กสูงขนาดนั้นได้ ตนเองอยากร้องขอความเป็นธรรม ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องออกมาชี้แจงเรื่องการเสียชีวิตดังกล่าว
ขณะเดียวกันสอบถาม นายโยธิน เสมอใจ สารวัตรกำนันตำบลนาแก และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดจับกุม ระบุว่า ในวันเกิดเหตุได้ออกลาดตระเวน บริเวณเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเก่ากลอย - นากลาง และ ได้พบผู้ตาย กำลังนำไม้มาใส่เตาเพื่อเผาถ่าน จึงได้จับกุมตัว พร้อมของกลาง ไม้กุง ไม้เต็งรัง จำนวน 13 ท่อนใหญ่ และ 20 ท่อนเล็ก รวมทั้งของกลางอื่นๆ ส่งเจ้าหน้าที่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ แจ้ง 2 ข้อหา ว่า ทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และ ฐานทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และ ที่ผ่านมาผู้ตาย มีพฤติกรรมชอบตัดไม้ในเขตป่าสงวนเป็นประจำอีกด้วย