เกษตรกรที่ปรับเปลี่ยนจากพื้นที่นาหันปลูกอ้อย หลังประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ กลับเผชิญภัยแล้งซ้ำทำต้นอ้อยแคระแกรนแห้งตาย ทั้งมีแมลงระบาด ผลผลิตเสียหายกว่า 2 หมื่นไร่ จากพื้นที่เพาะปลูกทั้งจังหวัดกว่า 200,000 ไร่
เกษตรกรหลายพื้นที่ใน จ.บุรีรัมย์ ที่ตัดสินใจปรับเปลี่ยนจากพื้นที่นาข้าวหันมาปลูกอ้อย เพื่อหวังหนีปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำเหลือเพียงกิโลกรัมละ 6 - 7 บาท ต้องเผชิญกับภาวะภัยแล้งซ้ำเติม เนื่องจากแหล่งน้ำธรรมชาติแห้งขอด ทำให้ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงต้นอ้อย จนมีสภาพแคระแกรนไม่สมบูรณ์ บางพื้นที่มีสภาพเหี่ยวเฉาแห้งตาย ทั้งมีแมลงระบาด ทำให้ผลผลิตเสียหายกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 20,000 ไร่ จากพื้นที่ปลูกทั้งจังหวัดกว่า 200,000 ไร่ ซึ่งจากกรณีดังกล่าว เกษตรกรได้เรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ โดยการขุดลอกแหล่งน้ำ หรือขุดเจาะบ่อบาดาล เพื่อให้เกษตรกรได้มีน้ำในการทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี
นายดร สีโสภา นายกสมาคมชาวไร่อ้อยบุรีรัมย์ กล่าวว่า ปีนี้ได้มีเกษตรกรหันมาปลูกอ้อยเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมากว่า 30,000 ไร่ รวมพื้นที่ปลูกขณะนี้ทั้งจังหวัดกว่า 200,000 ไร่ เนื่องจากการปลูกอ้อยใช้น้ำน้อยกว่าการทำนา แต่จากสภาพความแห้งแล้งที่รุนแรงในปีนี้ ก็ทำให้ต้นอ้อยแคระแกรนไม่เจริญเติบโต ทั้งมีสภาพเหี่ยวแห้งตายเสียหายกว่าร้อยละ 20 หรือกว่า 20,000 ไร่ของพื้นที่เพาะปลูก จึงอยากร้องขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เร่งหาแนวทางช่วยเหลือโดยการขุดลอกแหล่งน้ำ หรือขุดเจาะบ่อบาดาล เพื่อให้เกษตรกรได้มีน้ำในการทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี
Cr.สุรชัย พิรักษา/บุรีรัมย์