ชาวบ้านลงขันเรี่ยรายเงินส่วนตัวกว่า 3 หมื่นบาท เพื่อทำการเจาะบ่อบาดาลใต้ดินหาแหล่งน้ำขึ้นมาทำการเกษตรโดยเฉพาะพืชสวน หลังแหล่งน้ำคลองข้าวตอกแห้งขอดลงขาดน้ำล่อเลี้ยงพืชสวน
สถานการณ์ภัยแล้งยังส่งผลกระทบรุนแรงต่อเนื่องกับชาวบ้านและเกษตรกรกว่า 40 คน ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.ดงกลาง อ.เมือง จ.พิจิตร จึงต้องทำการลงขันเรี่ยไร รายละ 500-1000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 3 หมื่นบาท เพื่อทำการเจาะบ่อบาดาลใต้ดิน ในคลองข้าวตอก เพื่อทำการสูบน้ำ 24 ชั่วโมง เพื่อนำน้ำขึ้นมาล่อเลี้ยงพืชสวนและพืชผักสวนครัว ที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำและรักษาระบบนิเวศ
นายสุนทร เพ็ชรัตน์ ชาวบ้าน ระบุว่า ภัยแล้งในปีนี้รุนแรง แหล่งน้ำแห้งหมด โดยทางผู้นำหมู่บ้านจึงออกแนวคิดทำการลงขันรวบรวมเงินจากชาวบ้านและเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียง โดยไม่รองบประมาณจากภาครัฐ คนละ 1000 บาท รวมกว่า 3 หมื่นบาท เพื่อทำการเจาะบ่อบาดาล และซื้ออุปกรณ์การสูบน้ำ ทำการสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อนำน้ำขึ้นมาล่อเลี้ยงพืชสวนและพืชผักสวนครัวที่กำลังได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง
สำหรับพื้นที่ต.ดงกลาง อ.เมืองพิจิตร ตลอดทั้งสองฝั่งคลองข้าวตอก เป็นแหล่งผลิตสินค้าทางการเกษตรของ จ.พิจิตร ทั้งพืชผักสวนครัวและผักชนิดต่างๆ โดยในแต่ละปีจะสร้างรายได้จำนวนหลายล้านบาทให้กับเกษตรกรผู้เพาะปลูก แต่หลังจากคลองข้าวตอกซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลักเริ่มประสบปัญหาภัยแล้งเมื่อสองปีที่ผ่านมา จึงส่งผลกระทบกับการประกอบอาชีพของเกษตรกร เนื่องจากขาดน้ำซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเพาะปลูกทำให้เกษตรกรต้องขาดรายได้เป็นจำนวนมาก
Cr.สายันต์/พิจิตร