ร้องดีเอสไอ ตรวจสอบ 'โครงการพุทธอุทยานนครสวรรค์' ภายหลังมีการบุกรุกที่ดินสาธารณะ บริเวณปากคลองบึงบอระเพ็ด รวมถึงมีการถมคลอง ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน โดยเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวพันกับวัดพระธรรมกาย
นางขนิษฐา รัตนพัฒนากุล พร้อมด้วยนายสุรพงษ์ สิทธิกร ทนายความ (อดีตทนายความหลวงพี่แป๊ะ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ) เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อเป็นตัวแทนร้องทุกข์กล่าวโทษ พระเทพปริยัติเมธี เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ กรณีจัดทำโครงการพุทธอุทยานนครสวรรค์ที่ตั้งอยู่ หมู่ 6 ตำบลนครสวรรค์ออก อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ทำการถมดินบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ บริเวณปากคลองบึงบอระเพ็ด และถมคลองสาหร่ายตั้งแต่ปี 2548 ที่ตัดผ่านโครงการดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันไม่มีสภาพความเป็นคลองแล้ว จึงส่งผลให้ชาวบ้านบริเวณนี้ถูกน้ำท่วมได้รับความเดือดร้อน โดย นายสุรพงษ์ เผยว่า จากการถมคลองในโครงการดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านเคยถูกน้ำท่วมมากสุดถึง 2 เมตร แต่ที่ของโครงการดังกล่าวไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีการสร้างแนวกั้นน้ำ ซึ่งเมื่อตรวจสอบเอกสาร สค.1 มีจำนวน 110 ไร่ แต่ปัจจุบันสร้างกว่า 300 ไร่ ซึ่งเกินมาเกือบ 3 เท่า จึงอยากให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบ
นอกจากนี้ พระเทพปริยัติเมธี ยังใช้ผลงานในการก่อสร้างไปเสนอต่อเถรสมาคม เพื่อขอเลื่อนยศชั้นราษฎร์ จนได้เป็นชั้นเทพ จึงอยากขอให้ทางเถรสมาคมชี้แจงในกรณีนี้ รวมถึงมีสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เข้าไปตั้งอยู่ภายในโครงการด้วย จึงทำให้ส่วนตัวเชื่อว่าเหตุที่ไม่มีใครแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ เป็นเพราะโครงการดังกล่าวมีแต่ผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า เชื่อว่าพุทธอุทยานนครสวรรค์มีนายสัมพันธ์ เสริมชีพ (ทนายความพระธัมมชโย) เป็นไวยาวัจกรหรือผู้ดูแลเงินวัด จึงทำให้เชื่อได้ว่า สถานที่แห่งนี้น่าจะเกี่ยวพันธ์กับวัดธรรมกาย และสถานที่แห่งนี้ได้มีการจัดกิจกรรมลักษณะคล้ายกับวัดธรรมกาย แต่พอเกิดเรื่องกับวัดพระธรรมกายในช่วงที่ผ่านมา ก็ได้นำรูปภาพออกไป จึงอยากให้เข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย