โครงการชลประทานอุทัยธานีเตรียมตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จากแม่น้ำเจ้าพระยาไปเติมแก้ปัญหาภัยแล้ง และผลักดันให้น้ำไหลเวียนในแม่น้ำสะแกกรังไม่ให้เกิดการเน่าเสียบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนต่อไป
ที่จังหวัดอุทัยธานี นายธนู โพธิ์เอี้ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี กล่าวว่าสถานการณ์ภัยแล้งทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแม่น้ำสะแกกรังแม่น้ำน้ำสายเลือดใหญ่ระยะทางกว่า 24 กิโลเมตรที่ไหลผ่านอำเภอเมืองจังหวัดอุทัยธานีที่หล่อเลี้ยงชีวิตประชาชนรวมทั้งชุมชนชาวแพ 2 ฝั่งแม่น้ำเกือบ 4,000 ครัวเรือนขณะนี้ความแห้งแล้งกำลังทำให้แม่น้ำสะแกกรังเข้าใกล้ภาวะวิกฤตอย่างหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมาที่ประชาชนดังกล่าวก็กำลังจะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักซึ่งในสภาวะปกติแล้วแม่น้ำสะแกกรังจะได้ปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านประตูระบายน้ำปากคลองขุมทรัพย์และตามรอยเสด็จประพาสต้นรัชกาลที่ 5 ตำบลเกาะเทโพอำเภอเมืองไหลเข้าไปเติมแม่น้ำสะแกกรังตามธรรมชาติเพื่อทำให้น้ำในแม่น้ำสะแกกรังไลเวียนและไม่ทำให้น้ำนั้นเน่าเสีย และหากระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาต่ำกว่า 13.95 เมตรที่ระดับทะเลปานกลางจนส่งผลให้ระดับน้ำตำกส่าประตูระบายน้ำทั้ง 2 แห่งดังกล่าวก็จะทำให้ปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านตามธรรมชาติก็จะส่งผลให้แม่น้ำสะแกกรังเกิดวิกฤตภัยแล้งอย่างหนักและไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนรวมทั้งจะส่งผลให้น้ำไม่ไหลเวียนจนเกิดการเน่าเสียขึ้นได้ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและเพื่อเป็นการเตรียมการรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นทางโครงการชลประทานอุทัยธานีและจังหวัดอุทัยธานีได้ขอเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไปยังกรมชลประทานเพื่อไปตั้งสูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไปตามประตูระบายน้ำปากคลองขุมทรัพย์และตามรอยเสด็จประพาสต้นรัชกาลที่ 5 เพื่อไปเติมน้ำในแม่น้ำสะแกกรังกรังเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและเพื่อผักดันให้น้ำไหลเวียนไม่ให้เกิดการเน่าเสียอันเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนต่อไปแล้ว
Cr.สามสอ อุทัยธานี