การดำเนินการติดตั้งกังหันลมขนาดใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อผลิตไฟฟ้าส่งขายให้กับรัฐบาล ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยไร้ปัญหา ซึ่งขณะนี้ การดำเนินการดังกล่าว เสร็จสิ้นไปกว่า 80 เปอร์เซนต์แล้ว
ในพื้นที่ตำบลท่าบอน ของอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ปัจจุบันมีการติดตั้งกังหันลมขนาดใหญ่ เป็นจำนวนมาก เพื่อดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้า ป้อนไปยังโรงงาน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนจะส่งกระแสไฟฟ้าขายกลับไปให้กับรัฐบาล
ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทจากต่างประเทศ เข้ามาสำรวจกระแสลม ก่อนจะรับสัมปทานในการติดตั้งกังหันลมผลิตกำลังกระแสไฟฟ้า แต่บริษัทดังกล่าว ได้ทำการขายโครงการดังกล่าวให้กับบริษัทกังหันลมบริสุทธิ์จำกัด ซึ่งเป็นของคนไทยดำเนินการต่อ
โดยพื้นที่ทั้งหมดที่มีการติดตั้งกังหัน เป็นที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ ที่ยอมขายที่ดินให้ในวงเงิน จำนวนกว่า 4 แสนบาทต่อ 1 ไร่ ส่วนที่ดินอีกส่วนหนึ่งชาวบ้านบางราย ก็ไม่ยอมขาย แต่ให้ทางบริษัท มาดำเนินการติดตั้งกังหันลม โดยมีการทำสัญญาเช่าระยะเวลา 25 ปีแทน
ส่งผลทำให้ในปัจจุบัน การติดตั้งกังหันลมดังกล่าว เสร็จสิ้นไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซนต์ เพราะสาเหตุส่วนหนึ่ง มาจากการที่ทางชาวบ้านให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ขณะที่นายปราโมทย์ แสงอรุณ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าบอน เปิดเผยว่า ชาวบ้านจะมีผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน ในการตอกเสาเข็มในช่วงแรกเท่านั้น ซึ่งตนได้ลงไปชี้แจง ทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่แล้ว
พร้อมกับให้เหตุผล ความจำเป็นในการใช้ไฟฟ้า ซึ่งต่อไปตนเชื่อว่า ประเทศไทย คงไม่ต้องซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน มาใช้อีกอย่างแน่นอน
สำหรับ 'กังหันลมระโนด' นั้น เป็นโครงการกังหันลมขนาดใหญ่ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งถูกพัฒนามาจากการนำพลังงานลม มาใช้ในการชักน้ำเข้า-ออกพื้นที่ทำการเกษตร เช่น การทำนาเกลือ และทำนาปี กระทั่งเมื่อช่วงต้นปี 2558 ที่มีวิกฤติราคาพลังงานจากน้ำมันดิบ จึงได้มีการคิดค้นนำพลังงานลม มาใช้ประโยชน์ในการผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างจริงจัง
ซึ่งช่วงต้นของการติดตั้งนั้น เคยส่งผลกระทบต่อบรรดาเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ในพื้นที่อำเภอระโนด เป็นอย่างมาก ก่อนที่ภายหลัง บริษัทที่เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งกังหันลมดังกล่าว จะมีการตกลงค่าชดเชยให้กับบรรดาเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ที่ได้รับความเดือดร้อน จนสามารถดำเนินการติดตั้งกังหันลมต่อได้ มาจนถึงปัจจุบัน