ตำรวจเรียกเจ้าหน้าที่เทศกิจ เอี่ยวโกงสอบนายสิบนครบาล เข้าให้ปากคำพร้อมแจ้งข้อหาหัวหน้าขบวนการอั้งยี่เพิ่มเติม โดยเช้านี้มีนักศึกษาทยอยมอบตัวอีก 4 คน
นายจิระพจน์ พลายด้วง เจ้าหน้าที่เทศกิจ ผู้ต้องหาสำคัญในคดีทุจริตสอบนายสิบ กองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากได้รับประกันตัวไปก่อนหน้านี้
ส่วนกลุ่มนักศึกษาที่ร่วมทุจริตสอบนายสิบ ล่าสุดเข้ามอบตัวและให้ปากคำกับตำรวจเพิ่ม 4 คน หลังจากเมื่อวานมีเข้ามอบตัว 29 คน จากทั้งหมด 51 คน
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า “เดินทางมาสอบปากคำนายจิระพจน์ ด้วยตนเอง เพื่อต้องการเค้นหาความเชื่อมโยงผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องว่ามีใครอีกบ้าง รวมถึงต้องตรวจสอบผู้จัดสอบ กรรมการคุมสอบว่าผิดพลาดหรือมีส่วนรู้เห็นหรือไม่
นอกจากนี้จะแจ้งข้อหานายจิระพจน์เพิ่มเติม ในข้อหาหัวหน้าขบวนการอั้งยี่ หลังจากก่อนหน้านี้ แจ้งไป 2 ข้อหาคือ แจ้งความเท็จ และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ด้าน นายสุภัทร จำปาทอง เลธาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เปิดเผยว่า กรณีมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังร่วมขบวนการทุจริตสอบเข้ารับราชการนายสิบตำรวจ ตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ สกอ. ในปัจจุบัน ไม่มีข้อกำหนดให้นักศึกษาที่ทำผิดกฎหมายอาญา ต้องพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา
โดยหากศาลตัดสินให้ต้องโทษสามารถรักษาสถานภาพและกลับมาเรียนต่อได้เมื่อพ้นโทษ ซึ่งต่างจากในอดีตที่กำหนดให้ 'บัณฑิตต้องเป็นผู้มีความรู้คู่คุณธรรม' หากกระทำผิดกฎหมายอาญา ต้องพ้นสถานภาพการเป็นนักศึกษาทันที
เบื้องต้น สกอ. ได้มอบหมายให้แต่ละมหาวิทยาลัยออกกฎระเบียบกำกับดูแลนักศึกษาของตัวเอง ดังนั้นในกรณีนี้ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาโทษของแต่ละมหาวิทยาลัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อสอบถามอธิการบดีและคณบดีของมหาวิทยาลัยชื่อดังต่างๆ ที่มีคณะแพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์ แต่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ และยังคงนิ่งเงียบ ไม่มีการออกมาแถลงการณ์ชี้แจงใดๆ