เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ออกมาระบุถึงขั้นตอนการสืบพยาน เพื่อรื้อฟื้นคดีของ 'ครูจอมทรัพย์' ว่า ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นน้อยมาก เเต่หากมีการพิสูจน์ได้ว่า 'ครูจอมทรัพย์' ไม่ผิดจริง ก็จะต้องได้รับการเยียวยาอย่างเต็มที่ ส่วนพยานและเจ้าหน

นายอธิคม อินทุภูติ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการรื้อฟื้นคดีอาญาของ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จังหวัดสกลนคร ภายหลังถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 3 ปี 2 เดือน ในคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต เหตุเกิดเมื่อปี 2548 ว่า ขณะนี้ทราบมาว่าศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้มีคำสั่งให้มีการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นมาใหม่ โดยศาลจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นนัดสอบคำให้การคดีในวันนี้ (16 ม.ค.) โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นไปตาม พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ ซึ่งในส่วนของคดีนี้เป็นคดีที่ศาลฎีกาเคยมีคำพิพากษาเด็ดขาดมาเเล้ว หากมีการสืบพยานคู่ความทั้งสองเสร็จสิ้น ศาลจังหวัดนครพนมซึ่งเป็นศาลชั้นต้นจะต้องส่งสำนวนบันทึกการพิจารณาสืบพยานคดีในศาลไปให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณามีคำพิพากษาชี้ขาดต่อไป

นอกจากนี้ นายอธิคม ยังกล่าวอีกว่าที่ผ่านมาการรื้อฟื้นคดีถือว่าสามารถเกิดขึ้นได้ยากมาก เพราะข้อกำหนดในการรื้อฟื้นคดีจะคล้ายกับคดีในศาลฎีกาฯ นักการเมืองที่ต้องมีพยานหลักฐานใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนและพยานหลักฐานใหม่นั้นมีผลที่จะเปลี่ยนแปลงคดีหรือพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ซึ่งในทางปฏิบัติโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากที่ผ่านมาตนเห็นเพียงคดีหรือสองคดีเท่านั้นที่ศาลมีคำสั่งให้รื้อฟื้นคดีจนกลับคำพิพากษาเด็ดขาดของเดิมได้ เพราะหากพิสูจน์แล้วว่าจำเลยคดีนี้ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด ก็จะมีผลตามมาหลายอย่าง เช่น พยานที่สืบไปในตอนแรกจนทำให้จำเลยต้องโทษคำพิพากษา จะมีความผิดอย่างไรบ้าง ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ จำเลยซึ่งเป็นผู้เสียหายก็สามารถดำเนินคดีเอาผิดในส่วนนี้ได้เช่นกัน