ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ พบใบเสมาขนาดใหญ่ที่แปลงนาท้ายหมู่บ้านที่กล่าวขานว่าเป็นที่อาถรรพ์ นำมาเก็บรักษาที่วัดชัยศรีบ้านเล้า คาดอายุราว 1500 ปี เร่งส่งเรื่องไปกรมศิลปากรเข้ามาตรวจสอบ

ชาวอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พากันมาดูใบเสมาโบราณที่วัดชัยศรีบ้านเล้า ตำบลหลักเมือง พร้อมจุดธูปไหว้อย่างไม่ขาดสาย หลังพบเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2559 บริเวณแปลงนาท้ายหมู่บ้าน เป็นที่กล่าวขานว่าเป็นที่อาถรรพ์มีคนพบกรุพระเครื่องสมัยทราวดีแล้วพยายามเข้าไปขุด แต่ก็เสียชีวิตอย่างปริศนาถึง 3 คน ชาวบ้านจึงช่วยกันเคลื่อนย้ายมาไว้ที่วัด ป้องกันมิจฉาชีพและให้ประชาชนมากราบไหว้

ขณะที่นายสัมฤทธิ์ กิตติโชติ สุขสงค์ นายอำเภอกมลาไสย นำชาวบ้านสรงน้ำทำความสะอาดใบเสมา และกล่าวว่าจุดที่พบห่างจากพระธาตุยาคู เมืองโบราณสมัยทวาราวดี 4 - 5 กิโลเมตร คาดเป็นเมืองบริวาร เบื้องต้นคาดว่าอายุประมาณ 1500 ปี พร้อมส่งเรื่องไปกรมศิลปากรให้เข้ามาตรวจสอบซึ่งใบเสมาที่พบมีการจำหลักภาพแตกต่างจากที่พบบริเวณเมืองฟ้าแดดสงยาง

ขณะที่เจ้าของแปลงนา เล่าว่า ฝันถึงแม่ที่เสียชีวิตแล้ว มาบอกให้ไปเอาของดีอยู่นา ตื่นเช้ามาจึงให้ลูกชายมาไถที่นา กระทั่งพบใบเสมาอยู่ลึก 50 เซนติเมตร โดยได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านและนำไปไว้ที่วัด ก่อนหน้านี้ก็พบใบเสมาแล้ว 2 ชิ้น แต่ไม่มีลวดลาย โดยนำมาไว้ที่วัดก่อนแล้ว

พบฐานศิวลึงค์ โบราณคาดเก่าแก่กว่านครวัดนครธม

ส่วนที่จังหวัดจันทบุรี พบฐานศิวลึงค์ โบราณ ในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอโป่งน้ำร้อน อาจารย์กามนิต ดิเรกศิลป์ นักโบราณคดีใต้น้ำของกรมศิลปกร ตรวจสอบแล้วยืนยันว่า ฐานศิวลึงค์นี้มีอายุประมาณ 1500 ปี ทำจากหินทรายสีชมพู เป็นศิลปะเก่าแก่กว่านครวัดนครธมของกัมพูชา แต่ปัจจุบันนี้ถูกนำมาไว้ในศาลเจ้าพ่อหินโม่ โดยไม่มีผู้ดูแล ชาวบ้านในพื้นที่ จึงต้องการให้หน่วยงานทางด้านโบราณสถานและท้องถิ่นเข้ามาดูแลวัตถุโบราณนี้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา