มาดูของกินยอดฮิตที่หลายคนก็ซื้อหาเป็นของฝากจากอิสานกันด้วย จะพาไปรู้จักกับ 'หม่ำ' เป็นอาหารชั้นเลิศคนอีสาน กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ สร้างความอบอุ่นได้ดีช่วงหน้าหนาวแบบนี้
หม่ำเป็นอาหารพื้นบ้านมีขายกันแทบทุกพื้นที่ในภาคอิสาน แต่วันนี้จะพาไปดูเคล็ดลับ จากร้านบ้านแพงรสเด็ดแม่จันทนา ถนนสายโกสุมพิสัย-ท่าพระ บ้านแพง ตำบลโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ขายหม่ำมาแล้วกว่า 40 ปี และเป็นอาหารขึ้นชื่อของที่ร้าน
นางสาวยศรินทร์ ถาโคตร เจ้าของร้านบ้านแพงรสเด็ด เล่าว่า หม่ำที่ร้านจะเลือกใช้ตับกับเนื้อวัวส่วนสะโพกที่ไม่มีพังผืด นำมาบดรวมกับกระเทียม ปรุงรสด้วยเกลือแล้วนำไปยัดในใส้วัว นำไปตากแดดไว้ 1-2 วัน เพื่อให้หม่ำแห้งและมีรสเปรี้ยว เมื่อได้ที่แล้วจึงนำไปขายให้กับลูกค้าหน้าร้านหรือบรรจุถุงเป็นของฝาก โดยหม่ำสามารถเก็บไว้ได้นานเกือบ 1 สัปดาห์ และสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นนานนับเดือน ทั้งนี้ชาวอีสานดั้งเดิมนิยมรับประทานหม่ำแบบดิบๆ แต่ระยะหลังเพื่อสุขอนามัยและป้องกันโรคพยาธิใบไม้ในตับ จึงมักนำมาย่างให้สุก
เคล็ดลับแนะนำว่าต้องค่อยๆ ย่างหม่ำไฟด้วยปานกลางบนเตาถ่านจึงจะดี หรือจะนำมาหั่นเป็นชิ้นแล้วทอดก็ได้ เมื่อสุกตักใส่จานโรยตะไคร้ซอยกับกระเทียมหั่น และพริกสด รับประทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยจนข้าวหมดกระติบไม้รู้ตัว
แต่ละวันที่ร้านจะใช้เนื้อวัวและตับวัว บดรวมกันประมาณ 20 กิโลกรัม สามารถหม่ำทำได้วันละ 30 – 40 เส้น ส่วนราคาขายเส้นละ 100 บาท ยิ่งช่วงนี้เทศกาลปีใหม่ มีลูกค้าแวะเวียนมาสั่งซื้อหม่ำไปรับประทานและเป็นของฝากจำนวนมาก ทางร้านต้องเร่งทำเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว นอกจากนี้ยังมีเนื้อวัวแห้งและอาหารอีสานอื่น ๆ จำหน่าย สร้างรายได้รวมกันต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 100000 บาท สำหรับร้านอาหารบ้านแพงรสเด็ด นอกจากหม่ำเนื้อ ยังจำหน่ายเนื้อทุบ เนื้อแดดเดียว ส้มวัว(แหนมเนื้อวัว) ไส้กรอกวัว ไส้กรอกหมู ร้านจะเปิดทุกวันไม่มีวันหยุด