แม่เด็กชาย 7 ขวบ นักเรียนชั้นป.1 ถูกครูผู้ช่วยตี 99 ครั้ง เตรียมขอย้ายโรงเรียน หลังจิตแพทย์ระบุว่า เด็กมีความเสี่ยงจะป่วยทางจิต หากอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิม ขณะเมื่อวานนี้ ตำรวจภูธคลองหลวง ได้นัดไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อทำสำนวนเรียกครูมาสอบสวน
แม่และครอบครัวพา เด็กชายวัย 7 ขวบ นักเรียนชั้นป.1 โรงเรียนในจังหวัดปทุมธานี เข้าให้ปากคำเพิ่มกับตำรวจภูธรคลองหลวง คดีถูกครูผู้ช่วยใช้ ไม้พลอง ตีตามร่างกาย 99 ครั้ง จนเป็นแผลและรอยฟกซ้ำทั้งตัว การสอบปากคำเมื่อวานนี้ (29ธ.ค.) เป็นการสอบปากคำ ร่วมกับอัยการ นักจิตวิทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำสำนวนคดีควบคู่กับผลตรวจบาดแผลเด็กจากโรงพยาบาลฯ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับครูที่ก่อเหตุ
แม่เด็ก ป.1 บอกว่า หลังจากได้พาตัว ลูกชายเข้าพบแทพย์จิตเวช ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ แพทย์ได้สอบถามว่า เกิดอะไรขึ้น ซึ่งในเวลานั้น ปรากฎว่า ลูกชายยังรู้สึกกลัว เมื่อได้ยินชื่อครูผู้ช่วยที่ตี และ มีอาการผวาอยู่บางครั้ง
ซึ่งแพทย์ได้แนะนำว่า อย่าให้ลูกชายอยู่คนเดียว อย่าถามซ้ำๆถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และ อย่าให้เด็กไปอยู่ที่เกิดเหตุสภาพแวดล้อมเดิมๆ อย่าให้พบเหตุการณ์ซ้ำๆเพราะเด็กจะฝั่งใจ ดังนั้นแม่จะได้ประสานไปยังสำนักงานประถมศึกษาเพื่อขอย้ายลูกและหลานรวม 4 คน ที่ยังศึกษาอยู่ในโรงเรียนดังกล่าว ออกเพื่อไปอยู่ที่สถานที่แห่งใหม่ เพื่อไม่ให้ลูกชายมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ ไปกว่านี้
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้ไปยังโรงเรียนดังกล่าวเพื่อขอพบ ผู้อำนวยการโรงเรียน ปรากฎว่า ฝ่ายธุรการได้บอกว่า ผู้อำนวยการไม่เข้ามาที่โรงเรียนหลายวันแล้ว ส่วนครูที่ก่อเหตุไม่เข้ามาที่โรงเรียนแล้ว จากการพูดคุยกับนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์ ยืนยันว่า ' ครูผู้ช่วย' ใช้ไม้พลองตีเด็ก ป.1 จริง บริเวณหน้าอาคารเรียน
ด้าน นายภูพิพัฒน์ สาวพัฒนะธาดา ตัวแทนสภาทนายความ เปิดเผยว่า หลังตำรวจสอบปากคำเพิ่มเติมแม่ ก็จะทำสำนวนคดีออกหมายเรียกตัวครูผู้ช่วย มารับทราบข้อกล่าวหา และ มาสอบปากคำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งความผิดที่ครูได้ทำลงไปนั้นเป็น การทำร้ายร่างกายเป็นคดีอาญา มีทั้งโทษปรับและจำคุก โดย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทางผู้อำนวยการโรงเรียน ยังไม่ได้ติดต่อประสานงานเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมแต่อย่างใด