พาไปดูการปลูกกล้วยกันบ้าง ปีนี้ถือเป็นปีทองของราคากล้วย ราคาดีแบบนี้เกษตรกรก็ยิ้มรับกันไป มีตัวอย่างอีกที่มาฝากกัน ที่อำเภอกระดึง จังหวัดเลย มีเกษตรกรท่านหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ จากการพลิกพื้นที่ปลูกอ้อย ไปทำสวนกล้วยหอมทอง

นี่คือ ผลผลิต กล้วยหอมทอง ของ นางบุษณีย์ ถิ่นถาน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสงป่าเปือย หมู่ 6 ต.ภูกระดึง อ.ภูกระดึง จ.เลย จากที่เคยปลูกอ้อยส่งโรงงานมานับสิบปี ไม่ประสบความสำเร็จ หันมาใช้ที่ดิน 3 ไร่ปลูกกล้วยหอมทอง จนประสบความสำเร็จสร้างงานและรายได้ จนเป็นที่ยอมรับของลูกบ้านและตลาดขายส่ง

นางบุษณีย์ ถิ่นถาน เล่าว่า แต่ก่อนปลูกอ้อยส่งโรงงานได้ปีละครั้ง เมื่อมีโครงการของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมมารี โครงการ 'เกษตรตามรอยพ่อหลวง' การเกษตรแบบทฤษฎีใหม่ เข้ามาในพื้นที่ ทางอำเภอภูกระดึงจึงจัดประชาชนและ เกษตรกรเข้ารับการอบรมที่ จ.อุดรธานี ตามรอยพ่อการเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงตนเองได้ตั้งปณิธานว่ากลับมาจะปลูกกล้วยหอมทอง

เมื่อกลับจากอบรมก็ตัดอ้อยขาย แล้วปลูกกล้วยหอมทองแทนบน เนื้อที่ 3.3 ไร่ ปลูกต้นกล้วยหอมทอง 1,400 ต้น ใช้พันธุ์ 'ฟอสมิเชล' จากประเทศญี่ปุ่น จาก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ขุดหลุมขนาด 50X50 ซ.ม. ระยะ 2x2 เมตร ปลูก 3-4 เดือน หน่อก็เริ่มโตขึ้น ใช้เวลาประมาณ 9 เดือน ก็สามารถตัดขายได้ พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกกล้วยได้ประมาณ 400 ต้น

ส่วนตลาดกล้วยที่ส่งไปขาย จ.หนองคาย จ. อุดรธานี จ.ขอนแก่น ส่วน จ.เพชรบุรี ก็ต้องการรับซื้อแต่ผลผลิตของเรายังมีไม่มากพอ ทางพ่อค้าบริษัทเอกชนจะมารับซื้อถึงสวนและรวบรวมผลหรือหวีที่สมบูรณ์ผลโตจัดส่งไปที่ต่างประเทศ จะตัดกล้วยหอมทองครั้งละ 300-400 เครือหรือ 2.600-2.700 กก. ต่อครั้ง

ราคารับซื้อหน้าสวน 15 บาท ต่อ กก. หรือหวีละ 50 บาท จะมีรายได้ครั้งละ 30,000-40,000 บาท ตัดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง รวมทั้งการขายหน่อกล้วยส่วนมากเป็นข้าราชการและเกษตรกรทั่วไปมารับซื้อ มาสั่งครั้งละ 500-1,000 หน่อ ขายในราคาแพง 15 บาทต่อหน่อ กล้วยหอมทองเป็นพืชที่ได้รับความนิยมปลูกเป็นอันดับต้นๆ อีกทั้งยังเป็นพืชที่สร้างฐานะ ให้กับเกษตรกรอีกด้วย

พลิกป่าอ้อย สู่สวนกล้วยหอมทองภูกระดึง