ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองยโสธร ตามร้านขายข้าวจี่ ต่างมีประชาชนพากันออกไปรอซื้อข้าวจี่ หรือข้าวเหนียวนึ่งปั้นชุบไข่ย่างไฟ เป็นอาหารอีสานพื้นบ้านกันเป็นจำนวนมาก จนทำให้ข้าวจี่แทบไม่พอขายในแต่ละวัน เนื่องจากในช่วงนี้ที่ยโสธรมีสภาพอากาศที่หนาวเย็น จนส่งผลให้ข้าวจี่อาหารพื้นบ้านอีสานขายดีตามไปด้วย เพราะประชาชนส่วนใหญ่ นิยมซื้อข้าวจี่ไปรับประทานในช่วงอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จใหม่ช่วงนี้ มักจะมีชาวบ้านนำข้าวเหนียวใหม่ไปทำเป็นข้าวจี่จำหน่าย ซึ่งจะมีกลิ่นหอมและรสชาดหวานนิดๆของข้าวใหม่ จึงเป็นที่นิยมของประชาชนทั่วไปในการรับประทานข้าวจี่

ซึ่งการทำข้าวจี่ก็ไม่ยุ่งยากแล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละคน ทั้งนำข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนโรยเกลือแล้วนำไปย่างไฟหรือจี่ไฟ หรืออาจจะนำไปชุบไข่แล้วย่างไฟก็ได้ โดยข้าวจี่สามารถรับประทานเป็นอาหารว่างหรือรับประทานเป็นอาหารเช้าไปเลยก็ได้ จะรับประทานควบคู่ไปกับเนื้อทอด หรือปลาแดกบอง หรือปลาร้าบองก็ได้แล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละบุคคล

นางทิพวรรณ มณีโชติ แม่ค้าขายข้าวจี่ บอกว่า ตนมีอาชีพขายข้าวจี่มานานหลายปีแล้ว แต่ในช่วงนี้อากาศเริ่มหนาวเย็นส่งผลให้ข้าวจี่ขายดีจนบางวันแทบไม่พอขายเนื่องจากมีประชาชนสนใจแวะไปซื้อข้าวจี่ไปรับประทานเป็นจำนวนมากจะมีทั้งข้าวจี่ธรรมดาและข้าวจี่ชุบไข่และจะขายในราคาก้อนละ 5 บาท และ 10 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนข้าวจี่ ตนจะนำข้าวเหนียวนึ่งไปทำข้าวจี่ไม่ต่ำกว่าวันละ 30 กิโลกรัม ถึงจะพอขายในระยะนี้ ซึ่งในแต่ละวันตนจะมีรายได้จากการขายข้าวจี่ไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 บาท โดยจะเปิดขายตั้งแต่เวลา 05.00-8.00 น.ก็จะหมดทันที