ต่อด้วยเรื่องของอาหารยอดนิยม อีกหนึ่งเมนูประจำบ้านของชาวอิสานและคนในยุคนี้ ใครชอบกินปลา ร้า วันนี้พาไปดูการทำปลาร้าของชาวนาที่จังหวัดนครสวรรค์ พลิกวิกฤตเป็นโอกาสหันไปจับปลาช่วงน้ำท่วม ทำปลาร้าขาย กิโลกรัมละ 35 บาท
กลุ่มเกษตรกรชาวนา ในพื้นที่บ้านรังบัว หมู่ 6 ตำบลวังมหากร อำเภอท่าตะโก กว่า 20 หลังคาเรือน พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เพราะที่นาของตัวเองยังถูกน้ำท่วมขังอยู่ เลยหันไปจับปลาแบบดักไทร ตามท้องไร่ปลายนา แล้วนำมาทำปลาร้าส่งขาย มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าคนกลาง เดินทางมารับซื้อถึงที่
วิธีการทำ พาไปที่บ้าน ของนางสายหยุด แจ่มกลิ้ง บอกว่า นำปลาที่ได้จากการนำดักไทร ไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ในท้องนากว่า 300 ลูก เอามากองรวมกันไว้ ก่อนจะให้คนในครอบครัวช่วยกันตัดหัวปลาแล้วนำเข้าใส่เครื่องปั่น เพื่อกำจัดเกล็ดออก จากนั้น จึงนำมาเอามาคลุกเคล้าหมักกับเกลือเม็ด และข้าวคั่ว ภายในกะละมัง จนเข้าสู่กระบวนการวิธีสุดท้าย คือการนำใส่ถังขนาดใหญ่ปิดปากพาชนะให้สนิทแล้วทิ้งหมักไว้อย่างน้อย 4 – 8 สัปดาห์ จึงขายได้
แต่ส่วนมากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่มารับซื้อจะซื้อตุนนำไปเก็บไว้ก่อน เนื่องจากปลาร้าที่แห่งนี้ทำมาจากปลากระดี่ล้วน ให้รสชาติอร่อยซึ่งเป็นนิยมของผู้บริโภค สอบถามนางสายหยุด เปิดเผยว่า เนื่องจากที่นาของตนเอง ยังคงถูกน้ำท่วม ตั้งแต่เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จนบัดนี้ ยังคงมีน้ำท่วมอยู่ จึงไม่สามารถทำนาได้ เลยต้องหันไปดักปลาตามท้องไร่ปลายนาแทน นำปลาที่ได้มาหมักปลาร้าขายเพื่อเลี้ยงชีพ
ถือว่าสามารถสร้างรายได้ดีได้พอสมคว รเพราะปลาที่จับได้ส่วนใหญ่จะเป็นปลากระดี่ ที่นิยมนำมาทำปลาร้ารับประทาน อีกทั้งยังสามารถจับได้ครั้งละหลายกิโลกรัมด้วย เนื่องจากในพื้นที่บ้านรังบัวอยู่ติดกับบึงบอระเพ็ด ครั้งเมื่อมีน้ำล้นบึงเข้าท่วมพื้นที่โดยรอ บจึงมีปลาหลุดออกจากบึงมาเป็นจำนวนมาก ส่วนราคาขายปลาร้าตนจะขายในราคากิโลกรัมละ 35 บาท และสามารถขายได้ถึงวันละ30กิโลกรัมเลยทีเดียว