อดีตเจ้าอาวาสวัดดัง จังหวัดชัยภูมิ ที่ถูกหญิงสาววัย 42 ปี แจ้งความจับในข้อหาขู่ฆ่า เข้ารับการตรวจสอบจากคณะผู้ปกครองสงฆ์ ก่อนจะมีมติว่า ไม่ผิด พร้อมกับระบุว่า หญิงคนดังกล่าวได้ร่วมกับแฟนหนุ่ม สร้างเรื่องบีบขอเงิน รวมถึงมอมยาพระ เพื่อถ่ายคลิปแบล็คเมล์ด
นายณรงศักดิ์ อ้อทอง ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ได้ประสานเจ้าคณะอำเภอรวม ทั้งคณะสงค์ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกัน กรณีหญิงวัย 42 ปี ชาวอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ นำหลักฐานคลิปวีดิโอภาพฉาว ที่แพร่สะพัดในสังคมออนไลน์ เข้าแจ้งความต่อตำรวจ ให้เอาผิดพระ ซึ่งเป็นอดีตเจ้าคณะอำเภอ และอดีตเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ ข้อหาข่มขู่ฆ่า โดยอ้างเหตุว่า ตนเองพยายามตีตัวออกห่าง เพราะไม่อยากเป็นภรรยาเก็บ บำเรอกามในกุฏิ
จากการสอบสวนข้อเท็จจริงพบว่า หญิงสาวผู้ร้องเรียน ได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดของพระผู้ถูกร้อง เมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา ก่อนที่หญิงส่าวจะเริ่มสนิทกับหลานชายของพระ จนถึงขั้นเป็นสามีภรรยากัน ทั้งที่ฝ่ายชายมีภรรยาอยู่แล้ว จากนั้นทั้ง คู่ ได้มาขอยืมเงินสดจากพระหลายครั้ง รวมประมาณ 1 ล้านบาทเศษ จนกระทั่งพระไม่มีเงินจะให้อีก หญิงสาวจึงแสดงความไม่พอใจเรื่อยมา
และเมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อนหน้านี้ หญิงสาวได้นำน้ำหวานมาถวายพระ พร้อมกับบอกว่า จะได้หายปวดขา แต่พอพระฉันท์น้ำเข้าไป กลับรู้สึกมีอาการชา เบลอ และหลับไป ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง พบว่า ไม่มีผ้าสบงจีวรติดตัวแล้ว ต่อมา วันที่ 27-28 กันยายนที่ผ่านมา หญิงสาวได้มาขอเงินพระอีก แต่พระไม่ให้ หญิงสาวจึงนำรูปภาพและคลิปในโทรศัพท์มาข่มขู่ พร้อมกับบอกว่า วันที่นำน้ำหวานมาถวาย พระได้ล่วงเกินตนเอง และกล่าวว่า หากไม่อยากมีเรื่องมีราว ต้องหาเงินมาให้
ซึ่งเมื่อคณะสงฆ์และกรรมการที่เกี่ยวข้อง ได้พิจารณาเรื่องราวทั้งหมดแล้ว จึงมีข้อสรุปว่า พระมิได้ข่มขู่หญิงสาว แต่เป็นผู้ที่ถูกหญิงสาวข่มขู่ ส่วนเรื่องของคดีความที่หญิงสาว ไปแจ้งความไว้นั้น ต้องปล่อยให้เป็นการทำงานของตำรวจ ที่จะสืบหาความจริง และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป