งานลอยกระทงปีนี้ที่จังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่เน้นจัดงานเรียบง่ายเช่นเดียวกับหลายพื้นที่ แต่ต้องทำไม้สไลด์เดอร์ปล่อยกระทงลงแม่น้ำเนื่องจากระดับน้ำต่ำสุดในรอบ 20 ปี ขณะที่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางโรงเรียนจัดกิจกรรมให้เด็กอนุบาลเรียนรู้และสืบสานประเพณีไทย
เด็กนักเรียนชั้นอนุบาลและประถมศึกษาโรงเรียนธีราศรม จังหวัดสุราษฎร์ธานี นำกระทงที่ผู้ปกครองเตรียมมาให้จากบ้านลอยในคลองท่ากูบ ในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ ซึ่งโรงเรียนจัดขึ้นเพื่อสอนให้เด็กได้รู้จักประเพณีไทย และร่วมสืบสานประเพณีอย่างถูกต้อง
โดยก่อนจะลอยทางโรงเรียนได้สอนให้เด็กรู้จักองค์ประกอบของกระทง และต้องเป็นกระทงธรรมชาติ พร้อมบอกเล่าประวัติและความสำคัญของการลอยกระทง พร้อมให้เด็กได้ตัดเล็บ ตัดผม ใส่ในกระทงก่อนจะนำลงลอย เพื่อบูชาและขอขมาเจ้าแม่คงคาตามความเชื่อ
เช่นเดียวกับโรงเรียนอนุบาลบึงกาฬพิทักษ์ สอนให้เด็กนักเรียนร่วมกันประดิษฐ์กระทงวัสดุธรรมชาติอย่างใบตอง เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และให้เรียนรู้ประวัติความเป็นมา และความสำคัญของประเพณีวันลอยกระทง ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าที่ทำกระทงขายในตลาดสดบึงกาฬ เน้นทำกระทงที่มีโทนสีขาวดำหรือสีเรียบง่าย ไม่ฉูดฉาดราคาตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป
ส่วนที่จังหวัดยะลา ซึ่งปีนี้ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี ลดระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี ทำให้เทศบาลเตรียมใช้ไม้สไลด์เดอร์บังคับกระทงลงน้ำบริเวณสถานที่จัดงาน สวนศรีเมืองยะลา สันเขื่อนแม่น้ำปัตตานีตลาดเมืองใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับจัดงานประเพณีลอยกระทงของเทศบาลนครยะลาทุกปี
สำหรับในปีนี้ทางเทศบาลฯ ได้เข้าไปจัดเตรียมสถานที่ เรือท้องแบนป้องกันภัยในลำน้ำ และไฟรีวิวประดับ เป็นรูปช้างเผือก พระเศวตสุรคชาธาร เต็มพื้นที่ เพื่อความสวยงามและระลึกถึงช้างเผือกคู่บารมี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีสมโภชขึ้นระวาง เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2511 ที่สนามโรงพิธีช้างเผือก เทศบาลนครยะลา
สำหรับสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทงในปีนี้ จัดแบบเรียบง่าย งดการแสดงรื่นเริง จะมีเพียงการลอยกระทงลงแม่น้ำปัตตานี ซึ่งถือว่าเป็นสายน้ำที่สำคัญ ที่ล่อเลี้ยงประชาชน
ส่วนงานลอยกระทงปีนี้ที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยเฉพาะที่วัดเจษฎาราม ปีนี้ชาวบ้านต่างช่วยกันผลิตกระทงหลายรูปแบบทั้งจากใบตองวัสดุธรรมชาติและกระทงจากวัสดุเหลือใช้ เช่น ถุงขนมขบเคี้ยวพลาสติกสีสันสดใส กระดาษรีไซเคิลและสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งชาวบ้านช่วยกันทำมาและนำมาถวายวัดเพื่อนำไปจำหน่ายนำรายได้บำรุงศาสนสถาน
โดยชาวบ้านบอกว่า ทุกปีจะประดิษฐ์กระทงจากวัสดุเหลือใช้ถวายวัดกว่า 2,000ใบ แต่ปีนี้ทำมาถวาย 1,989 ใบ เท่านั้น เพื่อแสดงออกถึงการทำความดีน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พ่อค้าแม่ค้านำกระทงมาจำหน่ายตามตลาดต่างๆ เช่นที่ตลาดหาดใหญ่ โดยเน้นกระทงจากวัสดุธรรมชาติที่ทำจากใบตอง ราคาเริ่มต้นที่ 30 บาท จนถึง 60 บาท แต่บรรยากาศโดยรวมยังเงียบเหงา เพราะยังอยู่ในช่วงแสดงความถวายความอาลัยขณะเดียวกันสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยเพราะในพื้นที่หาดใหญ่มีฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้า
ส่วนบรรยากาศตามโรงแรมต่างๆในเมืองหาดใหญ่ช่วงวันลอยกระทงปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะชาวมาเลเซียและบางตา โดยยอดจองห้องพักในปีนี้ไม่ถึงร้อยละ 50 ปัจจัยหลักมาจากค่าเงินริงกิตของมาเลเซียลดลงอย่างมากโดย 1 ริงกิตอยู่ที่ประมาณ 8 บาท จากก่อนหน้านี้ซึ่งอยู่ที่9-10 บาท นอกจากนี้ลอยกระทงปีนี้ไม่ตรงกับวันหยุดด้วย
ขณะที่จังหวัดกระบี่ พ่อค้าแม่ค้าจองสถานที่บริเวณริมเขื่อนเจ้าฟ้าปากแม่น้ำกระบี่ ภายในตัวเมืองกระบี่ เพื่อทำกระทงจำหน่ายให้กับประชาชนนักท่องเที่ยวในค่ำคืนนี้ โดยพบว่ากระทงส่วนใหญ่ทำจากวัสดุธรรมชาติต้นกล้วย ใบตอง ผลไม้ ดอกไม้ ขนมปัง และโคนไอศกรีม ที่ย่อยสลายได้ง่าย โดยจำหน่ายราคาตั้งแต่30-100บาทขึ้นอยู่กับขนาดและความสวยงาม