ไปดูผลไม้โปรดของใครหลายคน กล้วยหอม กินสดๆก็อร่อย กินกับไอติมก็ดี ปลูกได้ทั่วไทย เช่น ตัวอย่างในวันนี้พาไปดูสวนกล้วยหอมทอง จากฝืมือเกษตรกรจังหวัดเลย ที่น้อมนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพ่อ ปลูกกล้วยหอมทองป้อนตลาด
พาไปดูสวน ของ นางเกษมณี วรรณสุทธิ์ อายุ 38 ปี เลขที่ 181 หมู่ 6 บ้านห้วยไผ่ใต้ ต.โคกขมิ้น อ.หนองหิน จ.เลย นักประชาสัมพันธ์ อบต.โคกขมิ้น อ.วังสะพุง จ.เลย กล่าวว่า ดินของตนเป็นที่มรดกเคยปลูกพืชไร่ พืชสวนมานับสิบปีแล้ว แต่ประสพปัญหาด้านภัยธรรมชาติที่แห้งแล้ง อีกทั้งผลผลิตไม่ได้คุณภาพนัก ราคาตกต่ำที่สำคัญปัจจัยการผลิตด้านต้นทุนสูง จึงหันมาปรับเปลี่ยน
ตนเริ่มขุดบ่อน้ำ 1 บ่อ และบ่อบาดาล 1 บ่อ จากนั้นรับซื้อต้นพันธุ์กล้วยหอมทองมาจาก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ในราคา 40 บาทต่อหน่อ มาปลูกในพื้นที่เริ่มแรก 1 ไร่ 2 งาน จำนวน 660 ต้น ระยะปลูกที่ 2X2 เมตร ลงทุน 20,000-25,000 บาท รวมทั้งระบบน้ำด้วย
เมื่อต้นกล้วยอายุ 8-12 เดือน สามารถตัดเครือกล้วยส่งตลาดได้แล้ว ในราคา 10,315 บาท/ 1,000 กก. (หรือต่อตัน) เก็บเกี่ยวผลผลิตนั้นมีรายได้ จากการขายกล้วยหอมทองเป็นรอบๆละ ประมาณ 45,000 -50,000 บาท การตลาดไม่ต้องกังวลเพราะมีโรงงานมารับซื้อและเป็นการขายทั้งปลีกและค้าส่ง มีบริษัท มารับซื้อถึงสวน ตลาดเปิดกว้าง มองว่าอนาคตจะมีความสดใสมากยิ่งขึ้นมีแนวโน้มจะส่งออไปต่างประเททศ ดังนั้น ในปีนี้ตนก็จะขยายพื้นที่ปลูกกล้วยออกไปอีก 5 ไร่ ด้านแรงจูงใจที่มาปลูกนั้นเนื่องมากพระราชดำริ แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพ่อเป็นเกษตรกรทฤษฎีใหม่ การเกษตรอุตสาหกรรม มีตลาดมารองรับ ทำการเกษตรแบบประยุกต์ปลอดสารพิษ ปราศจากยาฆ่าหญ้าฆ่าแมลง โดยเฉพาะกล้วยหอมทอง
ใช้ปุ๋ยเป็นมูลหมู วัว ไก่และมูล ค้างคาว บางครั้งสลับกับปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มสารฟอสฟอรัส ไนโตรเจนมากขึ้นเพิ่มประสิทธิภาพดีขึ้น จะไม่มีการฉีดยาฆ่าหญ้าใช้วิธีการตัดทั้งสวน ตนมีความพึงพอใจมากที่ได้มาทำอาชีพนี้ เมื่อเข้าสวน ภายใต้ร่มเงาเย็นสบาย เป็น อาชีพที่สุจริตมาเห็นธรรมชาติสวยสีเขียว เกษตรกรน่าจะมาร่วมสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดเลยอีกครั้ง