บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ระบุได้ข้อสรุปไม่ย้ายสถานีขนส่งหมอชิต 2 ไปรังสิตแล้ว เพราะอาจต้องใช้เงินลงทุนสูงกว่า 1,500 ล้านบาท และทำให้ประชาชนไม่สะดวกต่อการเดินทาง โดยจะใช้วีธีปรับแผนการใช้พื้นที่ใหม่

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีการย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2 หรือ หมอชิตใหม่) ของบริษัท ขนส่ง จำกัด ไปยังรังสิต เพื่อคืนพื้นที่ให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย นำไปใช้ก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ทาง บขส.ได้รายงานผลการศึกษาจากบริษัทที่ปรึกษาแล้ว

เบื้องต้นจะไม่ย้ายสถานีขนส่งฯ ออกจากพื้นที่เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูงมากในการก่อสร้างสำนักงาน อาคารผู้โดยสาร และสถานีขนส่งกว่า 1,500 ล้านบาท ควรนำเงินไปทำประโยชน์ในส่วนอื่นมากกว่า และที่สำคัญไม่ต้องการให้ประชาชนผู้ใช้บริการเดือดร้อนเรื่องการเชื่อมต่อการเดินทาง ดังนั้นจึงให้ทาง บขส.ไปเจรจาต่อรองกับกับ รฟท.อีกครั้ง เพื่อหาข้อยุติเรื่องดังกล่าว

ด้านนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หากทาง บขส.ยังต้องการอยู่ในพื้นที่ของ รฟท.ก็สามารถดำเนินการได้ แต่จะต้องปรับแบบให้เหมาะสม โดย บขส.ต้องใช้พื้นที่น้อยลงจากเดิม จาก 90 ไร่ อาจลดเหลือประมาณ 50 ไร่ เพราะทาง รฟท.ต้องนำพื้นที่ส่วนหนึ่งไปก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ

ขณะที่พลตำรวจเอกอำนาจ อันอาตม์งาม กรรม การบริษัทรักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า จากการหารือกับนายวุฒิชาติ ได้ข้อสรุปว่า จะไม่ย้ายสถานีขนส่งหมอชิต 2 ไปยังรังสิต จากเดิมที่กำหนดต้องคืนพื้นที่ ให้กับการรถไฟแห่งประเทศ ไทย (ร.ฟ.ท.) ก่อนปี 2562

เพื่อนำไปก่อสร้างศูนย์ซ่อมรถไฟฟ้าสายสีแดงและสถานีกลางบางซื่อ โดยจะใช้วีธีปรับแผนการใช้พื้นที่ใหม่ ซึ่งต้องลดพื้นที่ลงเหลือเพียง 50 ไร่ รวมถึงต้องปรับแบบการก่อสร้างสถานีเดินรถจากความสูง 5 ชั้นเหลือเพียง 2 ชั้น ส่งผลให้ บขส. ใช้เงินลงทุนเพียง 500 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1,500 ล้านบาท

เนื่องจากการใช้สถานีขนส่งหมอชิต 2 ในปัจจุบันมีผู้โดยสารมากขึ้นถึงร้อยละ 50 เฉลี่ยมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 150,000 คน ต่อวัน จากเดิมอยู่ที่ 100,000 คนต่อวัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการจัดระเบียบรถตู้

ดังนั้น จึงได้หารือกับ ร.ฟ.ท.เพื่อให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ที่ยั่งยืนสามารถเชื่อมต่อระบบคมนาคม ทำให้ผู้ใช้บริการได้ประโยชน์สูงสุด