หลายจังหวัดยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน เช่นที่จังหวัดพิจิตร น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนเสียหายแล้ว 70 หลัง

ฝนตกสะสมในจังหวัดพิจิตร ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลสมทบกับแม่น้ำลำคลองสาขาต่างๆ หลากเข้าท่วมหมู่บ้านสถานีดงตะขบ ในอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมเสียหายแล้วกว่า 70 หลัง ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการสัญจร ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่สถานการณ์ฝนตกหนักในจังหวัดน่าน ทำให้น้ำป่าไหลซัดคอสะพานทรุดตัว บนถนนทางหลวงชนบทในพื้นที่บ้านห้วยเย็น หมู่ที่ 4 ตำบลปิงหลวง อำเภอนาหมื่น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องขึ้นป้ายแจ้งเตือนสะพานทรุด เพื่อปิดถนน 1 ช่องการจราจร เร่งแก้ไขสะพานโดยด่วน เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับชาวบ้านที่สัญจรไปมา

ส่วนภาคอีสาน ที่จังหวัดนครราชสีมา น้ำจากห้วยลำเชียงไกร เอ่อล้นท่วมหมู่บ้านลำเชิงไกร ตำบลโคกสูง อำเภอเมืองนครราชสีมา มานานกว่า 5 วัน โดยระดับน้ำสูงกว่า 80 เซนติเมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ขึ้นธงแจ้งเตือนชาวบ้านกว่า 500 หลัง เร่งอพยพขนย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ตรวจพบว่า ชาวบ้านเป็นโรคน้ำกัดเท้ากว่า 100 คน

นอกจากนี้ที่จังหวัดขอนแก่น ปริมาณแม่น้ำชี วัดจากพื้นที่บ้านค่าย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ระดับน้ำอยู่ที่ 9 เมตร 52 เซนติเมตร เทียบเท่ากับระดับน้ำท่วมฉับพลันเมื่อปี 2556ที่ผ่านมา โดยมวลน้ำกำลังเคลื่อนตัวจาก อำเภอจตุรัส–บ้านค่าย จังหวัดชัยภูมิ เข้าจังหวัดขอนแก่น ทำให้ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย แจ้งเตือนประชาชนอาศัยริมแม่น้ำชี เร่งอพยพของมีค่าและสัตว์เลี้ยงขึ้นบนที่สูง พร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลันในสัปดาห์หน้า