ตำรวจคุมตัว "ต๊อก คลองเตย" สอบสวน คดียิงต่อสู้ตำรวจ พบอาวุธปืนเถื่อน 1 กระบอก รอผลพิสูจน์วิถีกระสุนลูกหลงเยาวชน 2 ราย ก่อนแจ้งข้อหาเพิ่ม ย้ำพร้อมเยียวยาผู้บาดเจ็บ ค้านประกันตัว เตรียมฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ 27 ธ.ค.68

วันที่ 26 ธ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา 25 ธ.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายบุรินทร์ แก้วอบเชย หรือ “ต๊อก” อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาที่ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เจ้าพนักงานขณะเข้าจับกุมภายในชุมชนคลองเตย ล็อก 4-5-6 ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และมีประชาชนซึ่งเป็นเยาวชนหญิงอายุ 14 ปี ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายบุรินทร์มาสอบสวนที่ สน.ท่าเรือแล้ว

จากการสังเกตอาการ นายบุรินทร์มีท่าทีสงบ สามารถนอนหลับและรับประทานอาหารได้ตามปกติ ไม่พบอาการคลุ้มคลั่งหรือเครียดแต่อย่างใด มีเพียงการรับประทานยาแก้ปวดจากบาดแผลเท่านั้น ส่วนอาการบาดเจ็บจากกระสุนปืนที่บริเวณขาซ้ายนั้น ยังต้องรอให้พนักงานสอบสวนประเมินอาการอีกครั้ง ว่าจำเป็นต้องนำส่งโรงพยาบาลหรือเพียงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาทำแผลเพิ่มเติม

ด้านความคืบหน้าทางคดี มีรายงานว่า จากการตรวจค้นหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตรวจพบของกลางเป็นอาวุธปืน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นพบว่าเป็นอาวุธปืนไม่มีทะเบียน ส่วนกรณีวิถีกระสุนที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่ามาจากอาวุธปืนกระบอกใด ต้องรอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่ พฐ. หากผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันว่าเป็นกระสุนจากฝั่งผู้ต้องหาที่ยิงถูกเยาวชนหญิงทั้ง 2 คน จะต้องมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าวิถีกระสุนจะมาจากอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือฝั่งผู้ต้องหา ตำรวจยืนยันพร้อมให้ความช่วยเหลือและเยียวยาเยาวชนทั้ง 2 คนอย่างเต็มที่ แต่หากผลตรวจพบว่ามาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติการณ์และความจำเป็นในการใช้อาวุธปืน ว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามยุทธวิธีที่ถูกต้องหรือไม่

สำหรับนายบุรินทร์ ในวันนี้พนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากคำอย่างละเอียด ทั้งในคดียิงต่อสู้เจ้าพนักงาน คดียิงต่อสู้จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 3 ราย และคดีพยายามฆ่าเพื่อนบ้านเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนดำเนินการส่งตัวฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันเสาร์ที่ 27 ธันวาคมนี้ โดยพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง และผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี

ส่วนอาการของผู้บาดเจ็บ ฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกยิงบริเวณมือ มีอาการดีขึ้นและมีกำลังใจดี เช่นเดียวกับเยาวชนหญิงทั้ง 2 คน โดย น้องจ๋า ซึ่งถูกยิงเข้าที่น่องขาขวา ได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ แต่ยังต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นผู้ป่วยโรคธาลัสซิเมียหรือโรคโลหิตจาง ทำให้มีเลือดออกเป็นจำนวนมากระหว่างการผ่าตัดนำกระสุนออก และยังต้องดามเหล็กบริเวณกระดูกขาขวาที่หัก ครอบครัวยังคงมีความกังวลว่าน้องจะสามารถกลับมาเดินได้ตามปกติหรือไม่ รวมถึงความกังวลของตัวน้องเองในเรื่องความเป็นธรรม

ขณะที่ น้องบีบี ซึ่งถูกยิงเข้าที่บริเวณก้น แพทย์ได้นัดผ่าตัดในวันนี้ โดยครอบครัวของเยาวชนทั้ง 2 คนยังคงมีกำลังใจดีและเฝ้าติดตามการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด