ตาควายเดือดแต่เช้ามืด! ไทยยิงสกัดเส้นทางบำรุงกำลังและส่งเสบียง กดดันทหารเขมรเริ่มขาดน้ำและอาหารที่ "เนิน 350" ส่วน "ศพทหารไทย 2 นาย" ยังไม่สามารถนำกลับมาได้อยู่ในพื้นที่สู้รบอันตราย ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ อ.สังขะ และ อ.บัวเชด บางส่วนเริ่มทยอยกลับบ้านกันบ้างแล้ว แม้ฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคงยังไม่อนุญาติให้กลับจนกว่าทหารเขมรจะสิ้นสภาพ

วันที่ 19 ธันวาคม 2568 มีรายงานว่า คืนที่ผ่านมาที่ชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ทหารไทยยิงปืนใหญ่กว่า 30 ลูก ทิ้งระยะและต่อเนื่อง ก่อนจะเงียบไปจนถึงช่วงเช้าที่ยังเงียบอยู่ ขณะที่ชายแดนด้านปราสาทตาควาย และเนิน 350 อ.พนมดงรัก ที่มีการสู้รบอย่างดุเดือดและต่อเนื่องในหลายวันที่ผ่านมา พบว่าทหารไทยเปิดฉากยิงใส่กัมพูชาตั้งแต่เช้ามืดเวลาประมาณตี 4 กว่า และทิ้งช่วงห่างเป็นระยะๆ จนถึงช่วงเช้า แต่ไม่ถี่เหมือนหลายวันที่ผ่านมา

มีรายงานว่า เป็นการยิงสกัดเส้นทางบำรุงกำลัง และตัดเส้นทางส่งเสบียงอาหารและน้ำดื่มของทหารกัมพูชา ที่พยายามเข้ามาหนุนเสริมกำลังที่เนิน 350 และซุกซ่อนอยู่ตามซอกหลุมของหินและบังเกอร์ในป่าบนภูเขา ทำให้การเข้าไปควบคุมพื้นที่ของทหารไทยเป็นไปอย่างยากลำบาก จึงปฏิบัติการยิงปืนใหญ่สกัดเส้นทางบำรุงกำลังและส่งเสบียงต่างๆ ดังกล่าวเป็นระยะและเพื่อกดดันทหารกัมพูชา และมีข้อมูลว่าทหารกัมพูชาที่อยู่ที่เนิน 350 กำลังอิดโรยจากการขาดน้ำและอาหารแล้วในขณะนี้

ขณะที่บรรยากาศในพื้นที่ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ เป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยเฉพาะบริเวณถนนย่านตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง ที่ร้านค้าถูกปิดเงียบเป็นวันที่ 12 ของการสู้รบ

นอกจากนี้ ตามศูนย์พักพิงต่างๆ เริ่มมีประชาชนในพื้นที่ตำบลชายแดนของ อ.สังขะ และ อ.บัวเชด บางส่วนเริ่มพากันทยอยเดินทางกลับบ้านกันบ้างแล้ว หลังจากในพื้นที่ไม่พบว่าทหารกัมพูชายิงระเบิดเข้ามาตั้งแต่เริ่มปะทะกันจนถึงขณะนี้ ทำให้ประชาชนตัดสินใจกลับบ้าน เพราะต่างเป็นห่วงสัตว์เลี้ยงและพืชผักที่ปลูกไว้ ทั้งที่ฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคง ยังไม่ได้อนุญาติให้ประชาชนกลับเข้าพื้นที่จนกว่าทหารกัมพูชาจะสิ้นสภาพอีกด้วย

สำหรับศพทหารไทย 2 ศพที่เสียชีวิตระหว่างการสู้รบที่เนิน 350 คือ จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และพลทหารภาณุพัฒน์ เสาร์สา สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ชาว.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ยังไม่สามารถนำศพกลับมาได้ ทหารไทยกำลังพยายามเร่งนำศพกลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด และต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นพื้นที่สู้รบมีกับระเบิดและการดักซุ่มโจมตีของทหารกัมพูชาอยู่