กลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก แถลงประณามบริษัท "ไดกิ้น" จี้ยุติ "ปิดงานงดจ้าง" พร้อมยื่น 5 ข้อ ขอให้นายจ้างและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2568 กลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก ออกแถลงการณ์ประณามการใช้สิทธิ ปิดงานของนายจ้าง ต่อสมาชิกสหภาพแรงงานไดกิ้น อมตะรักษ์เสรี จากสถานการณ์การเจรจาข้อเรียกร้องประจำปีของสหภาพแรงงานไดกิ้น อมตะรักษ์เสรี ที่ปรากฏภาพข่าวตามสื่อต่างๆ ในโซเชียลเรื่องนายจ้างใช้สิทธิ์ "ปิดงานงดจ้าง" เฉพาะสหภาพแรงงานไดกิ้น อมตะรักษ์เสรี มีผล 6 ธ.ค. เป็นต้นไป หลังปมพิพาท จี้ทบทวนโบนัสเพิ่มแต่ตกลงไม่ลงตัว นั้น

โดยในแถลงการณ์ ระบุว่า ข้อมูลข่าวสารที่กำลังเป็นที่ถกเถียงทั้งก่อนหน้าและในปัจจุบัน ล้วนเป็นข้อมูลฝ่ายเดียวที่มุ่งเน้นโจมตีไปที่ตัวสหภาพแรงงานและสมาชิกสหภาพแรงงาน สร้างข่าวปลอมที่เป็นข้อมูลที่เกินไปจากข้อเท็จจริงและไม่ได้มีการพูดถึงการยื่นข้อเรียกร้องสวนของฝั่งนายจ้างแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นข้อเสนอเพื่อการยกเลิกสิทธิที่เคยระบุไว้ในสัญญาจ้าง ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องของสวัสดิการทั่วไป ซึ่งหากอ้างอิงจากข้อมูลผลกำไรของนายจ้างที่สหภาพแรงงานฯ ได้จัดเตรียมเพื่อประกอบการเจรจานั้น นายจ้างมีผลกำไรมากกว่า 5 พันล้านบาท และสภาพคล่องทางการเงินที่ไม่มีปัญหาใดๆ
การเจรจาต่อรองของสหภาพแรงงานฯ นั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นเหตุเป็นผล ไม่ได้เป็นข้อเสนอที่สุดโต่งหรือเกินเลยไปกว่าผลกำไรและมูลค่าส่วนเกินที่นายจ้างได้รับจากการทุ่มเททำงานหนักตลอดทั้งปีของคนงาน การไม่ยอมรับข้อเสนอของสหภาพแรงงานฯ ด้วยการยื่นข้อเรียกร้องสวนจึงเป็นเจตนาของนายจ้างที่จะทำลายองค์กรสหภาพแรงงานที่เป็นองค์กรเดียวที่ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของคนงาน ในท้ายที่สุดจึงนำไปสู่ข้อพิพาทแรงงานที่ตกลงกันไม่ได้ นำไปสู่การแจ้งปิดงานงดจ้างเป็นการชั่วคราวของนายจ้าง
กลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก ขอประณามการกระทำของนายจ้างอย่างถึงที่สุด เพราะนี่คือการทำลายหลักการสำคัญของอนุสัญญา ILO ข้อที่ 98 เรื่อง สิทธิในการเจรจาต่อรองร่วมอย่างเป็นธรรมของคนงาน เป็นการละเมิดสิทธิแรงงานตามหลักการสิทธิมนุษยชน เป็นความจงใจที่จะทำลายสหภาพแรงงานอย่างชัดแจ้ง และยังเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 42 บัญญัติว่า "บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการรวมกันเป็นสมาคม สหกรณ์ สหภาพ องค์กร ชุมชน หรือหมู่คณะอื่น..."
ตลอดระยะเวลากว่ายี่สิบปีที่ผ่านมา นายจ้างได้พยายามทุกรูปแบบที่จะทำลายการรวมกลุ่มกันเป็นสหภาพแรงงานและการเจรจาต่อรองร่วม แรกเริ่มตั้งสหภาพแรงงานก็มีการเลิกจ้างแกนนำในการก่อตั้งสหภาพแรงงานฯ และกลั่นแกล้งด้วยวิธีการต่างๆ นี่คือการทำลายสิทธิในการรวมกลุ่มกันเป็นสหภาพแรงงานและการเจรจาต่อรองร่วม ตามหลักการขององค์การแรงงานระหว่างประเทศที่รัฐไทยให้การรับรองไว้ว่าจะเคารพสิทธิแรงงาน
ดังนั้น กลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออกขอประนามการใช้สิทธิปิดงานงดจ้างของนายจ้างที่กระทำต่อสมาชิกสหภาพแรงงานฯ และขอให้นายจ้างและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาดังนี้
1. นายจ้างต้องยกเลิกการปิดงานงดจ้างทันที
2. นายจ้างต้องแถลงผลประกอบการต่อสาธารณะเพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ว่าผลกำไรและข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานนั้นไม่ได้เกินเลยไปกว่าศักยภาพของนายจ้างที่จะสามารถให้แก่ลูกจ้างได้
3. นายจ้างต้องถอนข้อเรียกร้องส่วนของนายจ้างที่ขอยกเลิกสวัสดิการและสิทธิของลูกจ้างที่มีอยู่แล้ว
4. พนักงานประนอมฯ ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อหาข้อยุติโดยเร็ว
5. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานต้องลงมากำกับและติดตามแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งด้านแรงงานด้วยตัวเอง
ต่อมา กลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก ได้ออกมาโพสต์ข้อความเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นที่ถูกชาวเน็ตบางกลุ่มโจมตีเรื่องข้อเสนอที่สุดโต่ง ว่า อดทนไม่ลาป่วย 10 ปี เพื่อหวังจะได้ทอง 3 บาท ชาวเน็ตบอกเรียกร้องเยอะสมควรแล้วที่โดน
ก็นายจ้างเขาบอกจะให้ในสัญญาสำหรับพนักงานอายุงาน 10-15 ปี ลองคิดว่าคุณทำงานเป็น 10 ปี และเขาบอกว่าจะมีสวัสดิการหรือได้รับสิทธินั่นนี่ให้ แต่พอสุดท้ายโดนบิด เป็นคุณ คุณจะโกรธไหม แล้วเพราะอะไรคุณถึงหัวเราะสะใจ
ที่น่าเศร้าคือ มีคนบอกให้ไล่ออกไปเลย จะเข้าไปสมัครแทน คุณๆ นายจ้างเขาเพิ่งบิดสัญญาจนคนงานต้องออกมาแสดงพลังเรียกร้องปกป้องสิทธิแรงงานของตัวเอง แต่ก็ยังมีคนเห็นเป็นโอกาสให้ถูกเขาบิดเหมือนวัวเหมือนควาย ที่คนกำลังจะถูกเตะออกจากโรงแล้วขออาสาเข้าไปเพื่อเป็นวัวเป็นควายให้เขาบิดต่อไปแทน


















