เดือดร้อนหนัก! พื้นที่ลุ่มต่ำชุมชนสุนทรนนท์-ในบ้าน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ยังมีน้ำท่วมขังลึก 2-4 เมตร แม้น้ำบนถนนหลักลดลงแล้ว ชาวบ้านระบุปัญหาเกิดจากพนังกั้นน้ำที่ไม่มีประตูระบายน้ำ ทำให้ต้องขังอยู่นานเป็นสัปดาห์ จึงขอให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งด่วนและสร้างประตูน้ำในระยะยาว ขณะเดียวกันพบขยะจำนวนมากลอยเกลื่อน ส่งกลิ่นเหม็น เสี่ยงปัญหาด้านสุขอนามัยหากระบายน้ำล่าช้า

วันที่ 28 พ.ย. 2568 มีรายงานว่า ชาวชุมชนสุนทรนนท์-ในบ้าน (หัวสะพานเก่า) เขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ยังคงประสบปัญหาน้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง แม้ระดับน้ำบนถนนสายหลักอย่างถนนตรัง-สตูล จะลดลงจนรถสามารถสัญจรได้แล้ว แต่พื้นที่ลุ่มต่ำยังมีน้ำท่วมสูง 2-3 เมตร และในบางซอยลึกถึง 4 เมตร ทำให้บ้านชั้นเดียวถูกน้ำท่วมมิดทั้งหลัง

สาเหตุหลักมาจากโครงการก่อสร้างพนังกั้นน้ำคลองย่านตาขาว ซึ่งไม่มีการติดตั้งประตูระบายน้ำ ส่งผลให้มวลน้ำจำนวนมากไม่สามารถไหลออกสู่คลองได้ทันเวลา ทำให้ชุมชนต้องกลายเป็น “อ่างเก็บน้ำจำเป็น” โดยปริยาย

นายสมัชชา ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ เผยว่า เดิมทีเมื่อเกิดน้ำท่วมใหญ่ น้ำจะขังในชุมชนเพียง 1-2 วันก็แห้งลงตามระดับน้ำในคลอง แต่หลังมีพนังกั้นน้ำและไม่มีประตูระบาย น้ำกลับต้องขังอยู่นานเป็นสัปดาห์ แม้ปัจจุบันระดับน้ำในคลองย่านตาขาวจะลดลงกว่า 1.50 เมตร แต่น้ำในชุมชนกลับยังสูงกว่าถึง 1.50 เมตร และต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะลดลงหมด

“หากมีประตูระบายน้ำ เวลาเกิดเหตุแบบนี้ก็สามารถเปิดระบายน้ำได้ ทำให้น้ำในชุมชนแห้งเร็วขึ้นมาก ส่วนช่วงฝนหนักก็ปิดประตูได้ ไม่เกิดปัญหาแบบทุกวันนี้” นายสมัชชา กล่าว

ขณะเดียวกัน สภาพซอยในชุมชนเปรียบเสมือนแอ่งกระทะ น้ำไหลแรงจนเรือไม่สามารถเข้ามาช่วยขนส่งอาหารได้ เนื่องจากเคยมีกรณีเรือแตกมาแล้ว ทำให้ชาวบ้านยิ่งเดือดร้อนหนักขึ้น จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินมาตรการฉุกเฉิน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามแนวพนังกั้นน้ำ เพื่อช่วยผลักดันน้ำออกสู่คลองให้เร็วที่สุด พร้อมเสนอแนวทางระยะยาวให้สร้างประตูน้ำที่สามารถเปิด-ปิดได้ในสถานการณ์น้ำหลาก

ด้านสภาพแวดล้อม ภายหลังน้ำเริ่มลดลงในเขตเทศบาล ได้พบว่ามีขยะจำนวนมากลอยเกลื่อนในหลายพื้นที่ บางส่วนเริ่มส่งกลิ่นเหม็น คาดว่าหากการระบายน้ำสู่ทะเลล่าช้า อาจเกิดปัญหาขยะเน่าเสียและเสี่ยงเชื้อโรคตามมา ชาวบ้านหวังให้มีการเร่งจัดเก็บขยะควบคู่กับการระบายน้ำเพื่อป้องกันปัญหาด้านสาธารณสุข