ตำรวจไล่ล่า! ตามรวบทันควันชายวัย 66 ปี ก่อเหตุใช้ปืนยิงเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นคนงานรับจ้างถางหญ้า ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย สาหัส 1 ราย โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธไม่ขอพูดถึงแรงจูงใจ อ้างขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น เผยชนวนเหตุจากปัญหาทะเลาะวิวาทเรื่องการถางหญ้าและลูกสาวถูกฟาดด้วยไม้

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 มีรายงานว่า คืนที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธนะสิทธิ์ อุดมพรวรชัย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ พร้อมด้วย ร.ต.อ.นิพนธ์ เพื่อนสงคราม รอง สว.(สอบสวน) ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงด้วยอาวุธปืนได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ภายในชุมชนกุดแคน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ


ที่เกิดเหตุพบว่าผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลชัยภูมิไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อผู้บาดเจ็บสาหัส คือ นายสหภาพ อายุ 32 ปี ถูกยิงบริเวณลำคอ และอีกรายบาดเจ็บเล็กน้อยคือ นายดนัย อายุ 30 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาให้ปากคำในเบื้องต้น ส่วนมือยิง คือ นายสมาน อายุ 66 ปี หลังก่อเหตุได้ขับรถสามล้อสกายแล็บหลบหนีไปทันที


จากการสอบสวน นายดนัย ผู้บาดเจ็บเล็กน้อย เผยถึงนาทีระทึกว่า ก่อนเกิดเหตุตนและพี่ชาย (นายสหภาพ คนสาหัส) ได้รับจ้างมาถางหญ้าเพื่อเตรียมสร้างรั้วติดกับบริเวณบ้านของนายสมาน ผู้ก่อเหตุ ต่อมาลูกสาวของนายสมาน ซึ่งมีอาการป่วยทางจิต (สติไม่สมประกอบ) ได้เดินเข้ามาเอะอะโวยวาย พี่ชายของตนจึงได้ใช้ไม้ฟาดไปยังลูกสาวของผู้ก่อเหตุ แต่ไม้ไม่ถูกตัว จากนั้นลูกสาวนายสมานจึงโทรศัพท์ไปฟ้องพ่อ


ไม่นาน นายสมานได้ขับรถสามล้อเข้ามาจอด ยังไม่ทันได้พูดคุยหรือทะเลาะวิวาทกัน นายสมานกลับใช้อาวุธปืนที่พกมายิงเข้าใส่พวกตนทันที กระสุนพุ่งเข้าถูกลำคอของพี่ชายตน จนเป็นแผลฉกรรจ์ ส่วนตนถูกยิงบาดเจ็บเล็กน้อย ตนจึงรีบช่วยเหลือพี่ชายนำส่งโรงพยาบาลและเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ


ด้าน พ.ต.ท.ธนะสิทธิ์ และ ร.ต.อ.นิพนธ์ ได้ประสานชุดสืบสวนภูธรจังหวัดชัยภูมิ และชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุทันที จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัว นายสมาน ได้พร้อมกับรถสามล้อและอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน เบื้องต้นนายสมานยังไม่ขอให้การใดๆ โดยแจ้งว่าจะขอพูดต่อหน้าศาลเท่านั้น และยืนยันว่าขณะก่อเหตุไม่ได้ดื่มสุราหรือมีอาการมึนเมาแต่อย่างใด


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา "พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร" และ "ยิงปืนในที่สาธารณะ" ก่อนจะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมตามผลการสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป