เปิดใจครั้งแรก! "ผบ.ตร." ออกโรงโต้หลังตำรวจถูกโจมตีอย่างหนัก ลั่นผมไม่ใช่ลิเก ผมใช้สมองทำงาน

วันที่ 18 พ.ค. เวลา 15.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เปิดใจเป็นครั้งแรกภายหลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เผชิญกับการโจมตีอย่างหนักจากภาคสังคมและภาคประชาชนในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย ผบ.ตร. ยอมรับว่าการทำงานใกล้ชิดกับการบังคับใช้กฎหมายและอำนาจหน้าที่อาจกระทบกระทั่งกับผู้ที่ไม่เห็นด้วยหรือผู้กระทำผิด พร้อมทั้งระบุว่า มีบุคคลที่ใช้โอกาสนี้โจมตี ตร. โดยที่ยังไม่ได้มีการแจกแจงรายละเอียด จนทำให้ประชาชนเชื่อไปตามนั้นโดยไม่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ปฏิเสธการเปรียบเทียบคำพูดและการกระทำของตนเองกับพระเอกลิเก โดยยืนยันว่า ตนเป็นตำรวจมาตั้งแต่เด็กจนโตและไม่เคยเล่นลิเก การเป็น ผบ.ตร. คือการใช้สมองสั่งกำชับให้หน่วยงานปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และดูแลประชาชน พร้อมย้อนถามผู้ที่วิจารณ์ว่า ตัวคนพูดเองเป็นลิเกอยู่หรือเปล่า โดยยืนยันว่า ทุกวินาทีคิดแต่เรื่องที่จะทำให้องค์กรดีขึ้น และจะพยายามทำให้ ตร. เป็นหน่วยงานที่มั่นคงและต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ดีให้ได้

ในส่วนของการวิจารณ์ภาพตำรวจยืน ปฏิญาณอุดมคติตำรวจหน้าเสาธง ว่าเป็นการแก้ภาพลักษณ์ที่ไม่ถูกจุด ผบ.ตร. ระบุว่า ตนสนับสนุนการกระทำดังกล่าว เพราะได้เคยให้นโยบายปรับทัศนคติให้ตำรวจตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนไปแล้ว การที่ตำรวจออกมายืนพูดข้อปฏิบัติจึงไม่ใช่เรื่องผิด พร้อมกล่าวถึงการถูกกล่าวหาว่าองค์กรตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรมว่า หวังว่าตำรวจที่ทำงานอยู่คงจะรู้สึกไม่ดี และหากข้าราชการตำรวจคนใดมีพฤติกรรมแอบแฝงและมีข้อเท็จจริงหรือหลักฐานปรากฏ ตนจะดำเนินการถึงที่สุด

สำหรับกระแสข่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) เรียกรับผลประโยชน์จากการแต่งตั้งโยกย้าย ผบ.ตร. กล่าวเตือนว่า การรับผลประโยชน์เป็นการกระทำที่โง่สุดๆ และได้กำชับห้ามปฏิบัติเด็ดขาด พร้อมยืนยันว่าได้สอบถาม ผบช.ภ.8 และรองผู้บัญชาการฯ โดยตรงแล้ว และได้รับคำยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

โดยตนได้กำชับให้ทุกคนให้สัจจะวาจาว่าจะไม่ทำเรื่องเสื่อมเสียชั่วร้ายนี้ พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่มีการไว้หน้า ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือแม้แต่เพื่อนร่วมรุ่นก็ตาม นอกจากนี้ยังได้ฝากบอกไปยังผู้ที่กล่าวหาว่า อย่าจินตนาการว่าสิ่งที่ตนเองทำ คนอื่นก็จะต้องทำ และยืนยันว่า ผบช.ภ.8 จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ที่เดิม ไม่มีโยกย้ายตามกระแสข่าว

ในประเด็นการกล่าวหาว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ในการแต่งตั้งวาระที่จะถึงนี้ โดยอ้างถึง พล.ต.อ., พล.ต.ท. และภรรยาน้อยของ ก.ตร. นั้น ผบ.ตร. ระบุว่าเป็นการกล่าวหาลอย ๆ และขอให้ผู้ที่ให้ข้อมูลนำพยานหลักฐานมาแสดง

ส่วนเรื่องตำรวจกว่า 200 นายที่อาจเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน ซึ่งมีอดีต ผบ.ตร. อาจเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ผบ.ตร. ระบุว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของ คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่ตาม พ.ร.บ.ตำรวจ และไม่เกี่ยวข้องกับ ผบ.ตร. โดยตรง แต่หากผลสอบสวนแล้วเสร็จ ตร. จะนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาโทษทัณฑ์ต่อไป

สำหรับการที่ ผบ.ตร. ออกมาชี้แจงวันนี้หลังเกิดกระแสสังคมกว่า 2 สัปดาห์ ผบ.ตร. ระบุว่าการชี้แจงไม่ได้เร็วหรือช้า และความเชื่อของแต่ละคนไม่สามารถบังคับกันได้ แต่การออกมาชี้แจงในฐานะหัวหน้าหน่วยเป็นการคลายข้อสงสัยอย่างมุ่งมั่น

นอกจากนี้ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎร จะเชิญไปชี้แจงในวันที่ 26 พ.ย. ว่า หากไม่ติดภารกิจจะไปชี้แจงด้วยตนเอง แต่ได้ฝากเตือนว่าสิ่งที่พูดในที่ประชุมกรรมาธิการบางเรื่องอาจหมิ่นเหม่ข้อกฎหมาย เนื่องจากบางเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรม

และสุดท้าย ผบ.ตร. ยังชี้แจงกรณีที่มี รอง ผบ.ตร.ภาพถ่ายกับผู้ต้องหาคดีเว็บพนันและอื่น ๆ โดยระบุว่าตำรวจเป็นคนสาธารณะ ไม่ทราบว่าใครดีหรือร้าย และการถ่ายภาพคู่กันเฉย ๆ ไม่ถือว่าผิด หากจะผิดจะต้องมีพฤติกรรมที่แสดงถึงการเกื้อหนุน หรือมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งใกล้ชิดกันบ่อยครั้ง